TOP-SPRC ท็อปพิก! โบรกมองปี 66 ค่ากลั่นทรงตัวสูง รับดีมานด์จีนพุ่ง

“บล.เกียรตินาคินภัทร” มองปี 66 ค่าการกลั่นทรงตัวอยู่ในระดับสูง รับดีมานด์จากจีนเพิ่ม หลังรัฐบาลจีนประกาศเพิ่มโควต้าการส่งออกน้ำมัน ยังคงมองบวกต่อหุ้น TOP-SPRC ท็อปพิก โดย TOP มีราคาเป้าหมาย 74.40 บาท และ SPRC มีราคาเป้าหมาย 14.60


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการรวบรวมสำรวจข้อมูลทิศทางแนวโน้มส่งออกไทยไปจีนปี 2566 หลังจีนเปิดประเทศ และยกเลิกมาตรการ Zero COVID จะขยายตัวได้มากน้อยเพียงใดนั้นจากที่ทางการจีนตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ 5% ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคภายในของจีน รวมถึงโรงงานผลิตสินค้าในจีนต้องขยายตัวมากกว่าปี 2565 ประกอบกับการเปิดประเทศของจีน ทั้งขาเข้าและขาออกทำให้เศรษฐกิจภายในของจีนจะกลับมาคึกคัก ประเมินในเบื้องต้น การส่งออกไทยไปจีนในปี 2566 คาดขยายตัว 0.5-1% คิดเป็นมูลค่า 35,136 -36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยนับตั้งแต่เปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทั้งทั่วโลกก็จับตามองความเป็นไปของจีนอย่างต่อเนื่องว่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาจากโควิดได้หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจจีนมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกในทั้งฐานะผู้ผลิตและผู้บริโภครายใหญ่

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนจะเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว เศรษฐกิจจีนอาจอยู่ในช่วงซบเซาไปอีกซักพัก เพราะจากข้อมูลของทางการ ตัวเลขส่งออกของจีนซึ่งเป็นปัจจัยชี้ดีมานด์ของโลกยังลดลงต่อเนื่อง โดยลดลง 9.9% ในเดือนธันวาคม ลดเพิ่มจาก 8.7% ในเดือนพฤศจิกายน แต่ยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนที่คาดการณ์ว่าจะลงไปถึง 11.1%

โดยหลังจากจีนเปิดประเทศแล้ว นักวิเคราะห์คาดว่ายอดนำเข้าของจีนน่าจะเพิ่มขึ้นจากดีมานด์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังจากประชาชนเริ่มปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับโควิดได้แล้ว หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกนโยบาย Zero-Covid อย่างกะทันหันจนประชาชนหาทางป้องกันตัวเองไม่ทันจนยอดโควิดพุ่งสูงขึ้นมากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

รวมถึงรัฐบาลจีนประกาศเพิ่มโควต้าการส่งออกน้ำมัน ซึ่งเป็นสัญญาณถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่มีแนวโน้มอ่อนตัว โดยโควต้าการส่งออกน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันอากาศยาน ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 46% จากระดับ 13 ล้านตันในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 19 ล้านตัน โดยบริษัทชิโนเปค (Sinopec) มียอดโควต้าการส่งออกน้ำมันสูงสุด ทั้งนี้ ยอดรวมการส่งออกน้ำมันในจีนในปี 2565 มีปริมาณรวมกว่า 37.25 ล้านตัน

นอกจากนี้ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น ภายหลังจากการประกาศโควต้าการส่งออก ขณะที่อุปสงค์ในภูมิภาคทรงตัว ส่วนราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น ภายหลังจากการประกาศโควต้าการส่งออก

สอดคล้องกับทางฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (19 ม.ค.66) ว่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปของจีนเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาในเดือนธันวาคม หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับที่ทางการจีนประกาศไว้ก่อนหน้า นอกจากนั้นจีนยังได้ประกาศเพิ่มโควต้าการส่งออกในปีนี้

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปจากจีนในไตรมาส 1/2566 จะชะลอลงจากช่วงปลายปี โดยคาดว่าในเดือนมกราคมจะลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านและต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์ เพราะดีมานด์ในประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าค่าการกลั่น (SG GRM) จะทรงตัวอยู่ในระดับสูง (8.5 เหรียญ/บาร์เรล) ในปี 2566 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นเป็นหุ้น Top picks ของภาค คือ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC มีราคาเป้าหมาย 14.60 และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มีราคาเป้าหมาย 74.40 บาท

Back to top button