NER ดีดบวก 2% โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 8.70 บ. ชี้พ้นจุดต่ำสุด “ปันผล” สูง 5.6%

NER เด้งกว่า 2% ลุ้น “ปันผล” ครึ่งหลังปี 65 ที่ 0.36 บาท ยีลสูง 5.6% ฟากโบรกแนะนำทยอย “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท มองผลงานพ้นจุดต่ำสุด ราคายางปีนี้เริ่มฟื้นตัวขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (25 ม.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ณ เวลา 10:35 น. อยู่ที่ระดับ 6.55 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.34% สูงสุดที่ระดับ 6.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81.55 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คาดกำไรไตรมาส 4/65 จะออกมาน่าผิดหวังจาก GPM ที่ถูกดันจากราคายางขาลงในช่วงครึ่งหลังของปี 65 แต่เชื่อว่านั่นจะเป็นจุดต่ำสุดของ earnings cycle ของ NER หลังพบว่าอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์ยางได้ฟื้นตัว สะท้อนจากราคายางได้ปรับตัวขึ้นขึ้นต่อเนื่อง 21.6% จากจุดต่ำสุดในเดือน พ.ย.65 และมีแนวโน้มฟื้นต่อผลักดันจากผู้บริโภคยางรายใหญ่ของโลกอย่างจีน ระหว่างรอเห็นกำไรปี 66 ที่จะไต่ระดับขึ้น

โดยคาดว่า NER จะมอบเงินปันผลงวดครึ่งหลังของปี 65 ราว 0.36 บาท คิดเป็น dividend yield สูง 5.6% เป็นผลตอบแทน จึงยังคงคำแนะนำทยอยสะสม “ซื้อ” ราคาเหมาะสมใหม่ปี 2566 ที่ 8.70 บาท/ หุ้น อิง P/E เฉลี่ย 4 ปีที่ 8 เท่า

ด้านราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 ปรับตัวลงมา 32.9% จากจุดสูงสุดเฉลี่ย 70.95 บาท/ กก. ในเดือน เม.ย. 65 เหลือ 47.55 บาท/ กก. ในเดือน ธ.ค. 65 จากผลกระทบของสงคราม, เศรษฐกิจจีน และโลก ส่งผลให้การกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ยางเพื่อส่งมอบในครึ่งหลังของปี 65 ได้รับผลกระทบ แม้ปริมาณการส่งมอบจะเป็นไปตามแผนก็ตาม เหล่านี้ทำให้คาดว่า NER จะรายงานกำไรสุทธิ 427 ล้านบาท หดตัว  19.2% จากไตรมาสก่อน และ 29.3% จากปีก่อน โดยมีปริมาณส่งมอบ 1.5 แสนตัน เพิ่มขึ้น 21.1% จากไตรมาสก่อน โต 40.2% จากปีก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นคาดลดลง 340bps จากไตรมาสก่อน เหลือ 10.0% ส่งผลให้งวดปี 65 คาดกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แต่ต่ำกว่าประมาณการของเรา 22%

โดย ณ 24 ม.ค.66 ราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลาง อ.หาดใหญ่ เริ่มฟื้นจากสิ้นปี 65 แล้ว 7.1% ขณะที่ตลาดโลกราคายางก็ฟื้นตัวขึ้น 21.6% จากจุดต่ำสุดในเดือน พ.ย. 65 และสูงสุดในรอบ 5 เดือนแล้ว เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย (Recession) โลกเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นหลัง จีนกลับมาเปิดประเทศ ยูโรรายงาน GDP แข็งแรงกว่าตลาดคาด

รวมถึงภาวะเงินเฟ้อสูงก็คลี่คลายไปแล้ว โดยตลาดจีนคาดว่ายอดขายรถยนต์จะฟื้นตัว 5% ปีนี้ ขณะที่ International Rubber Consortium ก็คาดอุปทานยางจะไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญปีนี้จาก 3 ประเทศผู้ผลิตหลัก (ไทย อินโดฯ มาเลเซีย) เชื่อว่าจากแนวโน้มดังกล่าวราคายางจึงมีโอกาสสูงที่จะขยับตัวขึ้นได้ในปีนี้

พร้อมกันนี้ปรับประมาณการกำไรปี 66 ลง 18.9% เป็น 2 พันล้านบาท ขยายตัวราว 11.1% จากปีก่อน แต่การที่ตลาดเห็นจุดต่ำสุดที่ผ่านไปแล้วในปี 65 ขณะที่คาด NER จะจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังของปี 65 ราว 0.36 บาท/ หุ้น คิดเป็น Dividend yield สูง 5.6% อีกทั้งราคาเหมาะสมใหม่ 8.70 บาท/ หุ้น (ลดลงจากเดิม 18.6% และลดมาใช้ P/E เฉลี่ย 4 ปี 8.0 เท่า จากเดิม 8.5 เท่า) ก็ยังคงให้ upside สูง น่าสนใจ 36% ระหว่างรอดูพัฒนาการนี้

Back to top button