คุก 20 ปี! อดีตบิ๊ก TOT เซ่นใช้อำนาจจ่ายเงิน “สามารถไอ-โมบาย”

ศาลฯ มีคำพิพากษาจำคุก “วรุธ สุวกร” อดีตบิ๊ก TOT พร้อมให้ชดใช้กว่า 1 พันล้านบาท กรณีใช้อำนาจเกินหน้าที่ในการอนุมัติจ่ายเงินให้ “สามารถไอ-โมบาย”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อท 139/2565 ที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง นายวรุธ สุวกร อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ

โดยพิพากษาว่า นายวรุธ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 จำคุก 20 ปี กับให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้ร้อง บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด เป็นเงินจำนวน 1,062,147,006.16 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 5% ต่อปี ของต้นเงิน จำนวน 525,370,000 นับถัดจากวันที่ 15 ธ.ค. 2565

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 ม.ค.63 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ควบรวมกิจการเป็นบริษัทเดียว ตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 โดยใช้ชื่อว่า บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด โดย บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด จึงรับไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของ ทีโอที ทั้งหมด

ขณะที่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายวรุธ ซึ่งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ และต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที ผู้เสียหาย จำเลยจึงเป็นพนักงานตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และ พ.ร.ป.ว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

โดยระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 13 ต.ค.2551 จำเลยได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ให้ไปเจรจากับ บริษัท สามารถไอ-โมบาย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC) จากกรณี ทีโอที ถูกบริษัทดังกล่าวฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เรื่องผิดสัญญาและเรียกร้องเงิน จำนวน 2,648,771,009 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี ของต้นเงินนับถัดจากวันฟ้อง

จำเลยได้ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหาย โดยอนุมัติจ่ายเงินให้บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย เป็นจำนวน 1,485 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเกินกว่าวงเงิน 10 ล้านบาท ที่จำเลยมีอำนาจอนุมัติได้ ทั้งไม่เข้าข้อยกเว้นตามคำสั่งคณะกรรมการ ทีโอที และจำเลยมิได้ขออนุมัติการจ่ายเงินดังกล่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการ ทีโอที

Back to top button