คัด 12 หุ้นเด่น รับเงินเฟ้อชะลอตัว

แนะสอย 12 หุ้นเด่น รับเงินเฟ้อปรับตัวลดลงในหลายประเทศ ทั้งประเทศสหรัฐ-จีน-ไทย พร้อมคัดกรอง 13 หุ้นเด่นใน 3 กลุ่ม ได้แก่ SAWAD-JMT-CBG-CRC-CPN-CPALL-BGRIM-GPSC-ADVANC-SPALI-TU และ AP


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จํากัด หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน เม.ย. อยู่ที่ 4.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนต่ำกว่าตลาดคาด และลดลงจากเดือนก่อนที่ 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 23 เดือน โดยหลักๆ มาจากราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง

ส่วน Core CPI เดือน เม.ย. อยู่ที่ 5.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ตามตลาดคาดและลดลงจากเดือนก่อนที่ 5.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปัจจุบัน (ดอกเบี้ย 5.25% – เงินเฟ้อ 4.9%) อยู่ที่ 0.35% ส่งผลให้เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ตอบรับในเชิงบวก เฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดัชนีหุ้น NASDAQ ดีดตัวขึ้นแรงราว 1%

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่มีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่อง น่าจะเป็นหนึ่งปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลือกที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25% ในการประชุมรอบเดือน มิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจของ Fed Watch Tool เผยว่ามีโอกาสสูงถึง 94% ที่เฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงช่วงไตรมาส 3/2566

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจีน เดือน เม.ย. ในช่วงเช้านี้รายงานออกมาอยู่ที่ 0.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.4% และลดลงจากเดือนก่อนที่ 0.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยถือว่าเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 25 เดือน สะท้อนเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ จึงมีโอกาสที่รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกมาก

สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงในหลายประเทศทั้งประเทศสหรัฐ และจีน รวมถึงบ้านเรา ทำให้ฝ่ายวิจัยได้คัดกรองหุ้นที่ได้ประโยชน์ในยามที่เงินเฟ้อชะลอตัวและแบ่งออกมาเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มหุ้นการเงิน คือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT

กลุ่มหุ้นอุปโภคบริโภค เช่น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

รวมถึงหุ้นปันผลสูง คือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ AP และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU

ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศทั้งสหรัฐ จีน รวมถึงบ้านเราทยอยปรับตัวลง เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการยุติการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ประเทศต่างๆ สำหรับหุ้นเด่นในยามเงินเฟ้อชะลอตัวที่ค่อนข้าง Laggard อาทิ JMT, CBG, GPSC, SPALI, TU เป็นต้น

โดยทางฝ่ายนักวิเคราะห์ ทอยอยออกบทวิเคราะห์ประเมินทิศทางแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 เติบโตแข็งแกร่งของหุ้นบางตัวที่ได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อชะลอตัว ดังนี้

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ระบุว่า สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2566 คาดยอดขายในประเทศได้ผลบวกจากเป็นช่วงฤดูร้อนที่เครื่องดื่มมักขายดี และได้รับประโยชน์เต็มไตรมาสจากราคาสินค้าหลักที่ต่ำกว่าคู่แข่ง โดย CBG ยังคงราคา “คาราบาวแดง” ที่ 10 บาทตามเดิม ส่วนกลุ่ม TCP ขึ้นราคา “กระทิงแดง” เป็น 12 บาท ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2566 ขณะที่แผนการตลาดภายใต้แคมเปญ “แจกมอเตอร์ไซด์ทุกวัน แจกล้านทุกเดือน”

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2566-4/2566 ยังคงเติบโตได้เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในทุกไตรมาสจากศูนย์การค้าเดิมที่นับจากนี้มีการให้ส่วนลดค่าเช่า (Discount) กลับสู่ปกติเฉลี่ย 3-5% รวมถึงการสร้างรายได้เพิ่มของโครงการใหม่ทั้งศูนย์การค้า และโรงแรมใหม่

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ระบุว่า แนวโน้มประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ไว้ที่ราว 6 พันล้านบาท หนุนหลักจากราคาต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินที่คาดว่าจะเริ่มปรับตัวลดลงจากปี 2565 ตามการเข้าสู่สมดุลดีมานด์ และซัพพลายที่แท้จริงในระยะยาว รวมถึงโครงการใหม่ๆ ที่คาดจะทยอยเข้ามาตามการขยายตัวของแพลตฟอร์มของ solar India (AEPL) โดยคาดเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการใช้ไฟฟ้าสูงสุดตามการเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในประเทศอินเดีย

Back to top button