“โกลเบล็ก” จัดทัพหุ้น 3 กลุ่มน่าลงทุน รับนโยบายภาครัฐ

“โกลเบล็ก” ประเมิน SET ไซด์เวย์สัปดาห์นี้ นักลงทุนวิตกบอนด์ยีลด์ 10 ปีนิวไฮรอบ 16 ปี จับตาประชุมเศรษฐกิจสหรัฐ-ไทย โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,500-1,550 จุด พร้อมจัดทัพหุ้น 3 กลุ่มเด่นน่าลงทุน รับนโยบายลดค่าไฟ-ฟรีวีซ่า-เงินดิจิทัล


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,500-1,550 จุด

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณเชิงลบ เมื่อบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ ก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหม่ต่อแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ และปัญหาความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอยู่จากการที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียจะเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือในเดือนหน้า ส่วนสหรัฐกำลังเจรจากับเวียดนามเกี่ยวกับข้อตกลงการขายอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและกีดกันรัสเซียจากการขายอาวุธให้กับเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ วันนี้ 26 ก.ย. 66 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, วันที่ 27 ก.ย. 66 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/66 โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.25%, วันที่ 29 ก.ย. 66 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และสัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคและดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม นำโดย วันนี้ 26 ก.ย. 66 สหรัฐรายงานราคาบ้านเดือนก.ค. 66 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. 66 และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค. 66, วันที่ 27 ก.ย. 66 จีน รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. 66 อีกทั้งสหรัฐรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. 66 และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 28 ก.ย. 66 สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/66 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนส.ค. 66, วันที่ 29 ก.ย. 66 อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือนก.ย. 66 สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. 66 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. 66 และวันที่ 30 ก.ย. 66 จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย. 66 ภายในวันที่ 30 ก.ย. 66 ที่สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องผ่านกฎหมายงบประมาณก้อนใหม่ให้รัฐบาลมีเงินใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์

สำหรับคำกลยุทธ์การลงทุน โกลเบล็กคงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มเด่นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ อาทิ

  1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. ได้แก่ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO , บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT และ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC
  2. กลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์นโยบายฟรีวีซ่า ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA, บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP และ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU
  3. กลุ่มหุ้นที่รับประโยชน์จากนโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท ได้แก่ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM, บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP และบริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ KK

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้แนะนำติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ สุนทรพจน์ประธานเฟด และอัตราเงินเฟ้อส่วนบุคคลสหรัฐ

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินราคาทองคำในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 1,900-1,940 $/Oz เนื่องจากยังถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดในรอบ 22 ปีที่ 4.49% อีกทั้งความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย. 66 เป็นปัจจัยกดดันต่อการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในระยะกลาง

Back to top button