คัด 6 หุ้นพื้นฐานแกร่ง-กำไรปีหน้าโต รับดอกเบี้ยขาลง

คัด 6 หุ้นพื้นฐานดี Outperform ตลาดฯ ช่วงดอกเบี้ยขาลง เน้นราคาลงลึก-กำไรปี 67 โตเด่น-หนี้ลดฮวบ AAV, BGRIM,SYNEX,TIDLOR นำทีม


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์(18 ธ.ค.66) ว่า เฟดคงดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. และส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25%-5.50% โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้ง นับตั้งแต่ที่เดือน มี.ค. 2565

โดยในแถลงการณ์ Fed ได้ส่งสัญญาณสิ้นสุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยระบุว่า “คณะกรรมการ Fed จะพิจารณาปัจจัยหลายประการสำหรับการคุมเข้มนโยบายการเงินใดๆ ที่จะมีขึ้นอีก” ซึ่งเป็นการใช้ถ้อยค าที่ไม่เคยมีมาก่อนในแถลงการณ์ ในขณะที่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2024 และ Dot Plot ยังสะท้อนโอกาสที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 4 ครั้งในปี 2568 โดยเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย ผลการประชุม FOMC ที่ออกมา เป็นไปตามที่ consensus และ DAOL คาดการณ์ และส่งผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เช่น ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค สนับสนุนโดยการไหลกลับของเงินลงทุนจากต่างประเทศ

ทั้งนี้บล.ดาโอ ได้คัดเลือกหุ้นที่คาดว่ามีโอกาส outperform SET หลังผลการประชุม FOMC โดยพิจารณาจาก 4 ปัจจัยหลักตามลำดับความสำคัญ ดังนี้ 1) ราคาหุ้นปรับลงมากตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน, 2) มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูง (มีแนวโน้มที่กำไรปี 2567 จะดีกว่าคาดเดิม จากค่าใช้จ่ายการเงินที่ลดลง), 3) มีการเติบโตของกำไรปกติเป็นบวกหรือเติบโตดีในปี 2567(ธุรกิจที่มีผลกระทบน้อยจากเศรษฐกิจชะลอปี 2566 หรือได้รับผลกระทบมากแต่จะฟื้นตัวดีปี 2567) และ 4) มี short-term catalysts หรือมีความเสี่ยงทางธุรกิจต่ำ (ไม่มีปัจจัยลบ หรือ uncertain factors ที่จะกดดันราคาหุ้น)

โดยชู 6 หุ้นเด่น พื้นฐานดีที่เราเลือก คือ AAV, BGRIM, SYNEX, TIDLOR,HMPRO และ CK หุ้นกลุ่มการเงินได้ประโยชน์มากสุดเพราะต้นทุนส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยกู้ยืมกลุ่มไฟฟ้า มูลค่าหุ้นอ่อนไหวมากกับอัตราดอกเบี้ยมาก, AAV มีอัตราหนี้ต่อทุนสูงและราคาหุ้นปรับลงแรงสะท้อนจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาน้อยกว่าคาดปีนี้แล้ว รวมทั้ง SYNEX และ HMPRO ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV คาดไตรมาส 4/66 จะดีขึ้นจากผู้โดยสารที่กลับมาโต ส่วนบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR  สินเชื่อยังโตดี, NPL ผ่านจุดสูงสุด และทรงตัว เมื่อเทียบกับกลุ่มฯที่ยังเพิ่มขึ้น และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM กระทบจำกัดจากมาตรการคุมค่าไฟ,โอกาสการเติบโตจากโครงการ ต่างประเทศ

ด้านบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ลุ้นปี 2567 ยอดขายและ GPM จะดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ส่วนบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO กำลังซื้อฟื้นตัวจากมาตรการรัฐ e-Refund และขยายสาขาต่อเนื่อง และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK มีแบ็กล็อก(Backlog) ที่เติบโตสูงและทำสถิติใหม่

Back to top button