JSP เปิดตัว “สุภาพโอสถสหคลินิก” ชูแพทย์แผนไทย หนุนซอฟต์พาวเวอร์

JSP เปิดตัว “สุภาพโอสถสหคลินิก” ต่อจิ๊กซอว์ “ธุรกิจสุขภาพ” ครบวงจร กางแผน 10 สาขา ใน 5 ปี ชู “แพทย์แผนไทย” รับมือออฟฟิศซินโดรม-หนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตอบโจทย์ไทย-ต่างชาติ มูลค่ากว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ หวังสร้างรายได้ 10 ล้านบาท


นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โรงงานเภสัช อุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยว่าได้เปิดธุรกิจใหม่ อย่าง “สุภาพโอสถสหคลินิก” เพื่อต่อยอดธุรกิจของกลุ่มบริษัทให้ก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งในการให้บริการด้านสุขภาพครบวงจร โดยในไตรมาส 4/2566 ได้เปิดสาขาแรกในพื้นที่ติดกับบริษัท สำนักงานใหญ่ ถนนพระรามที่ 3

ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลผู้คนในสังคมรองรับชุมชมโดยรอบสำนักงานที่ต้องการเข้าถึงการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ลมในท้อง, ปวดข้อ, น้ำเหลืองไม่ดี และภูมิแพ้ ด้วยแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยค่ารักษาเริ่มต้นเพียง 200 บาท โดยบริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2567 จะเปิดเพิ่ม 2 สาขา รวมถึงเปิดเพิ่มให้ได้ 10 สาขา ภายใน 5 ปี

ขณะที่กลยุทธ์ในการเปิดสาขาของบริษัทนั้นจะใช้แผนการขยาย 2 แบบ คือ แบบแรกเป็นการเติบโตแบบออร์แกนิกส์ ซึ่งเป็นสาขาของบริษัทเอง และแบบที่ 2 ขยายด้วยวิธีการควบรวมกิจการ (M&A) จากกิจการเดิมที่เจ้าของต้องการเติบโตไปด้วยกันหรือต้องการออกจากธุรกิจเพื่อไปทำธุรกิจใหม่ ทั้งนี้หลังจากเปิดครบ 5 ปี

โดยจะทำให้สุภาพโอสถสหคลินิกมีสาขาไม่ต่ำกว่า 10 สาขา โดยหลังจากเปิดครบ 5 สาขา คาดว่าจะทำรายได้ 10 ล้านบาท ซึ่งการเปิดสหคลินิกครั้งนี้ยังสามารถใช้ข้อมูลของคนไข้ไปสู่การวิจัยและพัฒนาสูตรยาใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ปัจจุบันธุรกิจกลุ่มการแพทย์แผนโบราณและการแพทย์เสริม (T&CM) ที่มีมูลค่าตลาดรวมทั่วโลกถึง 5.19 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.4% ต่อปี  และมูลค่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 6.5 แสนล้านดอลลาร์ เติบโต 36% ต่อปี จากโอกาสการเติบโตดังกล่าว รวมถึงบริษัทได้วางแผนระยะยาวในการก้าวสู่เบอร์หนึ่งในธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพครบวงจรจึงได้เปิดตัว “สุภาพโอสถสหคลินิก” เพื่อรักษาโดยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยทีมแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทย ประยุกต์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนไทยและคนทั่วโลกเกิดอาการ “ออฟฟิศซินโดรม”เพิ่มมากขึ้นในปี 2050 ประชากรทั่วโลก 800 ล้านคนจะมีอาการเนื่องจากมีช่วงเวลาการทำงานที่ยาวนานมากขึ้น ทั้งนี้มีพฤติกรรมการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและไม่ได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ หรือขยับร่างกายน้อยรวมถึงขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

อีกทั้ง “โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” เกิดจากพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันและจากการทำงานเป็นเวลานานๆ โดยประชากรเกือบ 60 ล้านคนทั่วโลกต้องประสบปัญหานี้ และมีผู้ป่วยใหม่เกิดขึ้นประมาณ 1 ล้านคนต่อปีในประเทศไทย ซึ่งคนไทยใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เฉลี่ย 7 ชั่วโมงต่อวัน

“โดยคลินิกแผนทางเลือกกลายทางช่องทางใหม่ของคนวัยทำงานที่เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม รวมไปถึงผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อและกระดูกที่อาจเกิดจากการเล่นกีฬาหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ โดยเฉพาะศาสตร์การแพทย์แผนไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งซอฟต์เพาเวอร์ของประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้ความสนใจประกอบกับคนรุ่นใหม่หันใช้การรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยมากขึ้น รวมถึงการเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งเป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับการรักษาด้วยศาสตร์นี้อยู่แล้ว” นายพิษณุ กล่าว

นอกจากนี้สุภาพโอสถสหคลินิกให้การรักษา 5 กลุ่มอาการ อาทิ 1. กลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อ, ปวดตึงคอ, บ่า, ไหล่, ปวดต้นคอ, ออฟฟิศซินโดรม, ปวดหลังร้าวลงขา, ชาเท้า, ปวดบ่าร้าวลงแขน, ชามือ, นิ้วล็อก, ไหล่ติด,  รักษาด้วยการนวดรักษา, สักยาน้ำมันสมุนไพร, ดูดพิษ และกรอกเลือด  2. กลุ่มอาการลมในท้อง อาทิ ท้องอืด, ท้องผูก, กรดไหลย้อนหรือจะคนที่พุงป่อง, พุงหมาน้อย ซึ่งรักษาโดยการนวดโกยท้องร่วมกับการเผายาสมุนไพร  3.กลุ่มอาการปวดเข่า อาทิ ปวดข้อ, ข้อบวม, อักเสบซึ่งมีเสียงดังตามข้อเวลาเดินรักษาโดยการนวดรักษา, สักยาน้ำมันสมุนไพร, พอกเข่าสมุนไพร และประคบสมุนไพร

รวมไปถึงกลุ่มที่ 4. ดูแลผิวพรรณ สำหรับคนที่น้ำเหลืองไม่ดีและมีตุ่มผื่นอีกทั้งทิ้งรอยดำไว้ หรือคนที่อยากบำรุงหรือดูแลผิวให้สวยใสขัดผิวสมุนไพรอบไอน้ำสมุนไพร และ 5. กลุ่มคนที่มีอาการภูมิแพ้ อาทิ แพ้ฝุ่น, แพ้อากาศ, มีน้ำมูกไหล, ไอ, หอบหืดซึ่งรักษาโดยการอบไอน้ำสมุนไพรสุ่มยาและจ่ายยาสมุนไพร

Back to top button