SAK ตั้งเป้า “พอร์ตสินเชื่อ” ปี 67 โตแตะ 1.4 หมื่นล. ลุยขยายเพิ่ม 37 สาขา

SAK โชว์ผลการดำเนินงานปี 66 ดันพอร์ตสินเชื่อโต 12,070 ล้านบาท ส่วนเป้าปีนี้ขยายสาขาเพิ่ม 37 สาขาทั่วประเทศ มั่นใจดันพอร์ตสินเชื่อแตะ 14,300 ล้านบาท โต 15% จากปีก่อน


นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ “ศักดิ์สยามลิสซิ่ง” เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค.) โดยมีพอร์ตสินเชื่อโดยรวมอยู่ที่ 12,070 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำการเป็นผู้นำให้บริการสินเชื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากยั่งยืน จากการดำเนินกลยุทธ์ขยายผลิตภัณฑ์สินเชื่อทางเลือกใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป, สินเชื่อที่ดิน เพื่อตอบสนองความต้องการแหล่งเงินทุนให้แก่กลุ่มเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ผ่านเครือข่ายสาขาที่มีกว่า 1,029 สาขา

ทั้งนี้สำหรับสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโต ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน คิดเป็นสัดส่วน 82.1%, สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ คิดเป็นสัดส่วน 9.7%, สินเชื่อเช่าซื้อ คิดเป็นสัดส่วน 4.5%, สินเชื่อส่วนบุคคลที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน คิดเป็นสัดส่วน 1.9%, สินเชื่อที่ดิน คิดเป็นสัดส่วน 1.8% และ สินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป 44 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยมีปัจจัยความต้องการประหยัดค่าสาธารณูปโภคในครัวเรือนและการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกของเกษตรกร สนับสนุนให้รายได้รวมของ SAK อยู่ที่ 2,740 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาและมีกำไรสุทธิ 749 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งการบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่มีความรัดกุม ทำให้ควบคุมหนี้ NPLs ให้อยู่ในระดับ 2.5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ดีในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานงวดผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 314.4 ล้านบาท โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เม.ย. 67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 พ.ค. 67 นี้

นายศิวพงศ์ กล่าวว่า แผนธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตจากพอร์ตสินเชื่อทุกกลุ่ม วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่เพิ่มเติม และเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 37 สาขา หรือขยายสาขาครบ 1,066 สาขา เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับกลุ่มเกษตรกรและส่งเสริมนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรกรรมอย่างครบทุกมิติ ช่วยเพิ่มผลผลิตทางเกษตรด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งร่วมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อนำไปประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนในทุกอาชีพ หรือฐานทุนสำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่างๆ ด้วยแผนธุรกิจปี 2567 มั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 14,300 ล้านบาท เติบโต 15%

Back to top button