EPG มั่นใจยอดขายปี 67 โต 10% รับรู้ส่วนแบ่งกำไรร่วมทุนต่างประเทศ

EPG มั่นใจงบปี 67 ยังเติบโตต่อเนื่อง รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนในต่างประเทศ จากการขยายตัวทางธุรกิจที่มากกว่าปีก่อน


รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 66/67 (เม.ย.66 – มี.ค.67) บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตประมาณ 10% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31-33%

โดยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปีบัญชี 66/67 (เม.ย.-ธ.ค.66) บริษัทมีรายได้จากการขาย 9,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 32.5% และมีกำไรสุทธิ 1,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในปีบัญชี 66/67 (เม.ย.66 – มี.ค.67) จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มาจากการเติบโตของธุรกิจหลัก อีกทั้งบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจร่วมทุนเมื่อเทียบปีก่อน

ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ได้รับปัจจัยบวกจากภาคการผลิตสหรัฐอเมริกายังเติบโตดี ประกอบกับ Aeroflex USA Inc. สหรัฐอเมริกาสามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มลูกค้าขายส่ง และ กลุ่มลูกค้าโครงการ ได้แก่ EV / Semiconductor และ อาหาร เป็นต้น อีกทั้งสินค้าใหม่ Ultralow smoke ซึ่งนำไปใช้ในระบบ Air Ducting system มีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า สำหรับในญี่ปุ่น ฉนวนยาง Aeroflex กลุ่มพรีเมี่ยมยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ ตลาดในประเทศได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศและสร้างโรงงานผลิตใหม่จึงทำให้มีกลุ่มลูกค้าโครงการเพิ่มขึ้น

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ยอดขายของสินค้าหลักได้แก่ พื้นปูกระบะ (Bed Liner) หลังคาครอบกระบะ (Canopy) และบันไดข้างรถกระบะ (Slide Step) มีคำสั่งซื้อจากค่ายยานยนต์อย่างต่อเนื่อง สำหรับสินค้าใหม่เริ่มทยอยส่งสินค้าแล้วเมื่อต้นปีนี้ และเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีกหลายรายการ

ด้านธุรกิจในออสเตรเลีย Aeroklas Asia Pacific Group Pty. Ltd. ออสเตรเลีย ปัจจุบัน TJM มีร้านค้าสาขารวม 12 แห่ง โดยจะเร่งเพิ่มยอดขายของร้านค้าสาขา/ ขยายธุรกิจฟลีท และจะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดเน้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่มราคาประหยัดให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ชดเชยยอดสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารชะลอตัวลง อีกทั้ง ได้เจาะตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มดังกล่าว

สำหรับการลงทุนในธุรกิจร่วมทุนซึ่งตั้งอยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย และแอฟริกาใต้ โดยบริษัทลงทุนในกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์นั้น คาดการณ์ว่าในปีบัญชีนี้จะได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับการลงทุนใน ATD Alliance (Pty) Limited การร่วมค้า แอฟริกาใต้ เป็นช่วงเริ่มต้นของธุรกิจบริษัทจึงได้ส่งทีมที่ปรึกษาด้านการผลิตไปยังแอฟริกาใต้เพื่อช่วยดูแล ติดตาม และแก้ไขปัญหาพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

Back to top button