โบรกแนะเก็บ 3 หุ้นแบงก์ หลังคาด “เฟด” ไม่เร่งลดดอกเบี้ย ชู SCB ปันผลสูง

โบรกแนะนำซื้อ 5 หุ้นกลุ่ม “แบงก์-ไฟแนนซ์” ตัวปันผลสูง-มูลค่าถูก ชู SCB- TTB- BBL- SAWAD- TIDLOR หลังคาดเฟดยังคงไม่รีบร้อนที่จะลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับจะเข้าสู่เป้าหมายที่ 2%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกสภาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวันที่ (22 ก.พ. 67) ว่าต้องการเห็นประเด็นเงินเฟ้อชะลอตัวลงชัดเจนก่อน จึงจะเต็มใจสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงถัดไป โดยอยากรอดูข้อมูลเงินเฟ้ออีกอย่างน้อยสองเดือนก่อนจะตัดสินใจได้ว่า ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนม.ค.นั้นเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยหรือเป็นปัญหาใหญ่กันแน่

ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เนื่องจากเพิ่งมีข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเพียง 2 เดือนเท่านั้นและมีเวลาอีกเพียง 2 เดือนเศษกว่าจะถึงการประชุมเฟดในเดือนพ.ค. ถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ยกเลิกคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค. ซึ่งคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จนทำให้ล่าสุดนักวิเคราะห์คาดการณ์ใหม่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นพิเศษในปีหน้าแทน

โดยการตัดสินใจของเฟดขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจหลังจากนี้ไป ด้วยแรงสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ฟื้นตัวที่ระดับ 4.32% และตลาดฯ ยังให้น้ำหนัก 52.2% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. 67

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังจากการรายงานผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเป็นภาพไม่ต่างจากเดิม โดยเฟดมีมุมมองว่าดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และยังคงไม่รีบร้อนที่จะลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับจะเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ได้โดยกรรมการส่วนใหญ่ ลงความเห็นว่าควรคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป แต่มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่กังวลถึงการคงดอกเบี้ยสูงนาน และจำนวน 2 ราย ที่มีความกังวลต่อความเสี่ยงหากเฟดลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป

นอกจากนั้น ภาพอัตราดอกเบี้ยในไทยมีโอกาสที่จะเห็นแนวโน้มของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการลดดอกเบี้ยสูงขึ้น พร้อมทั้งแรงกดดันจากหลายฝ่าย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปีอ่อนตัวต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.54%

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มธนาคารที่ให้เงินปันผลระหว่างกาลสูง โดยเลือก บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เนื่องจากมีมูลค่าหุ้นที่ถูก

ทั้งนี้ ภายหลังจากหุ้น SCB แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 66 จำนวน 10.34 บาทต่อหุ้น ทำให้ช่วงครึ่งปีหลัง 66 จพมีการจ่างเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 7.84 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 67

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อ SCB ภายหลังจากแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 66 จำนวน 10.34 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield ทั้งปีที่ระดับ 10% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร และคิดเป็น Dividend payout ทีสูงถึง 80%

ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง 66 จะมีการจ่างเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 7.84 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็น dividend yield สูงราว 7.5% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 67

นอกจากนี้ยังมีหุ้นแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มไมโครไฟแนนซ์ อย่างเช่น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR

Back to top button