DUSIT เปิดบริการ “ดุสิตธานี กรุงเทพ” ก.ย. นี้ พลิกโฉมไทยประยุกต์สู่สากล

DUSIT พร้อมเปิดบริการโรงแรม “ดุสิตธานี กรุงเทพ” ก.ย. นี้ ปรับโฉมใหม่ไทยประยุกต์ มุ่งเป็นโรงแรมไทยชั้นนำทมาตรฐานสากล ตอกย้ำการกลับมาของเจ้าของตำนาน “หมุดหมายกรุงเทพฯ” ใจกลางเมือง


นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2567 ด้วยรูปโฉมใหม่ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ความเป็นไทยประยุกต์และร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี และเสริมด้วยความก้าวหน้าล้ำสมัยของเทคโนโลยี เพื่อเป็นโรงแรมไทยชั้นนำที่มีมาตรฐานสากลระดับโลก  ขอเชิญสัมผัสกับประสบการณ์ในการเข้าพักจากโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ผ่านการจองได้พร้อมกันที่ dusit.com ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป นับเป็นการสิ้นสุดการรอคอยกับการกลับมาของโรงแรมเรือธงของกลุ่มดุสิตธานี

สำหรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ได้รับการพัฒนาและก่อสร้างขึ้นใหม่อย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์ในการเข้าพักที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับ สมกับเจตนารมย์ของผู้ก่อตั้งในการนำความเป็นไทยให้ปรากฎสู่สากล ด้วยโครงสร้างอาคารสูงสีทองขนาด 39 ชั้น (จากเดิม 22 ชั้น) ที่ประกอบไปด้วยห้องพักสุดหรู ตั้งแต่ห้องดีลักซ์ จนถึงห้องสวีท รวมจำนวน 257 ห้อง (จากเดิม 517 ห้อง)

รวมถึงห้องพักทุกห้องสะท้อนความเรียบหรู โอ่อ่า กว้างขวาง ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเอกลักษณ์ของความเป็นไทย กับความสากลทันสมัยที่ตอบโจทย์การใช้งานของนักเดินทางในยุคใหม่ ด้วยพื้นที่ห้องพักมาตรฐานขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตรม. ขึ้นไป ซึ่งการออกแบบภายในนี้ถูกรังสรรค์อย่างประณีต จาก André Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล

โดยจากการทำงานร่วมกันของสองบริษัทสถาปนิกชั้นนำ ได้แก่ บริษัทสถาปนิก 49 (A49)  หนึ่งในบริษัทสถาปนิกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของประเทศไทยและ OMA Asia Hong Kong Limited สาขาของบริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก OMA (Office for Metropolitan Architecture)  ที่โด่งดังในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ทำให้ตัวโครงสร้างอาคารของโรงแรมดุสิตธานี เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นสะดุดตา และการจัดการวางผังพื้นที่ต่างๆ ก็มีการเชื่อมโยงอย่างลงตัวและมีระดับ เช่น การวางผังโถงทางเดินส่วนตัวหน้าห้อง (Single Corridor) ที่ทำให้ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นความร่มรื่นของสวนลุมพินีได้อย่างเต็มตาผ่านช่องหน้าต่างที่เป็นกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน และยังเสริมความพิเศษด้วยโซฟาหรูริมหน้าต่าง ให้ลูกค้าได้พักผ่อนชื่นชมธรรมชาติอันแสนสงบจากภายในห้องพักที่หรูหราทันสมัยได้อย่างลงตัว

เมื่อปี พ.ศ. 2513 โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม ได้เคยสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับคนในยุคนั้น ด้วยการมีห้องนภาลัย ห้องบอลรูมจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดในกรุงเทพ ขณะที่การกลับมาครั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ยังคงเอกลักษณ์ดังกล่าวไว้ คือ มีพื้นที่จัดเลี้ยงหรือจัดประชุมรวมกันแล้วขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร และหนึ่งในนั้นคือ ห้องแกรนด์บอลรูมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถรองรับการจัดเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบส่วนตัวใกล้ชิด ไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในระดับพันคน

นอกจากนี้ ทางโรงแรมฯ ยังได้จัดเตรียม ห้องอาหาร บาร์ต่างๆ  รวมถึงบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่มีการเล่นระดับหลายชั้น (Multiple Roof Top Bar) เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารอย่างเหนือระดับที่สร้างสรรค์โดยเชฟที่มีชื่อเสียง  นอกจากนี้ “เทวารัณย์ เวลเนส” ศูนย์บริการด้านเวลเนสที่จะนำเสนอสถานที่อันเงียบสงบ และบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ให้กับแขกและคนทั่วไปที่สนใจ ซึ่งรายละเอียดและข้อเสนอต่างๆ ของทั้งสองบริการนี้ จะเปิดเผยให้ทราบในเร็วๆ นี้

โดยความโดดเด่นของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ คือ การถนอมเก็บรักษาสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำ หรือชิ้นงานศิลปะ และสิ่งของตกแต่งอันมีค่าจากโรงแรมแห่งเดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็นยอดแหลมสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพแห่งเดิม ที่ได้ถูกนำกลับมาติดตั้งใหม่อีกครั้ง โดยยอดเสาเก่า จะถูกวางครอบด้วยยอดเสาทองใหม่ที่ใหญ่และสวยงามกว่าเดิม รวมถึงเพดานฉลุไม้สักจากห้องอาหารเบญจรงค์เดิม และงานจิตรกรรมผนังจากศิลปินแห่งชาติ ซึ่งสิ่งของอันทรงคุณค่าเหล่านี้จะถูกนำกลับมาเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของการออกแบบตกแต่งของโรงแรมแห่งใหม่

“โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม แต่คือบทพิสูจน์ของคำมั่นสัญญาที่เราจะไม่หยุดพัฒนาตนเอง และจะนำประสบการณ์ ความรู้ รวมถึงสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดมาสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าจดจำสำหรับอนาคต เราเก็บตัวตนและบุคลิกลักษณะของดุสิตธานีเดิมไว้ ในขณะเดียวกัน ก็เติมนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา เพื่อให้ดุสิตธานีสามารถสร้างความตื่นเต้นและพึงพอใจให้กับแขกที่รักเรา และนักเดินทางรุ่นใหม่ ซึ่งโรงแรมนี้ จะเป็นต้นแบบสำหรับบริการและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นให้กับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตทั่วโลก” นางศุภจี กล่าว

ขณะที่ นาย เอเดรียน รูดิน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายให้มาบริหารโรงแรมที่เป็นตำนานแห่งนี้ หลังจากเกือบห้าทศวรรษที่ผ่านมา โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นผู้สร้างปรากฎการณ์ และความทรงจำอันมีค่าที่นับไม่ถ้วนให้กับผู้คน

“ขอสัญญาว่า จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการรับไม้ต่อ ในการสร้างประสบการณ์อันแสนพิเศษ ให้กับแขกทุกคนที่มาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพัก การมาใช้บริการร้านอาหาร ห้องจัดเลี้ยง งานแต่งงาน หรือบริการด้านเวลเนส เพราะนี่ถือเป็นก้าวย่างใหม่ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่มีผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว” นาย เอเดรียน กล่าว

ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (Mixed-Use) มูลค่า 46,000 ล้านบาท ที่ประกอบด้วย อาคารที่พักสุดหรู (super luxury) ภายใต้ชื่อ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” อาคารสำนักงานที่ล้ำสมัย และศูนย์การค้าชั้นนำ รวมถึง Roof Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าใจกลางกรุงที่มีขนาด 11,200 ตรม. ซึ่งโครงการเหล่านี้ จะทยอยเปิดภายในปี 2568

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสำรองห้องพักที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ที่ dusit.com  เพื่อที่จะได้สัมผัสประสบการณ์อันแสนพิเศษก่อนใครในเดือนกันยายนนี้ และเพื่อให้ไม่พลาดข้อเสนอ หรือข่าวสารที่เป็นประโยชน์ สามารถสมัครเป็นสมาชิก ดุสิต โกลด์ได้ที่ dusit.com/signup

Back to top button