“โกลเบล็ก” แนะดักเก็บ 7 หุ้นเด่น รับอานิสงส์ “ฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร”

บล.โกลเบล็ก ประเมิน SET สัปดาห์นี้มีโอกาสรีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ ให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด พร้อมแนะนำลงทุนหุ้นที่ได้รับอานิสงส์มาตรการ “ฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร” ชู “AOT- AAV- MINT- CENTEL- ERW- SPA- SKY”


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยทางสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ และเรียกร้องให้อิสราเอลดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา ด้านประธานธนาคารกลางสหรัฐ ( FED ) สาขาแอตแลนตาได้ออกมาส่งสัญญาณว่า FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง และมีแรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าเศรษฐกิจในเดือนม.ค. 67 มีการฟื้นตัวที่ดี โดยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกและท่องเที่ยวที่เติบโตเกินคาดการณ์ช่วยสนับสนุน ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัวจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า ส่วนปัจจัยลบกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ ผู้นำกลุ่มกบฏฮูตีประกาศว่าจะยังคงทำการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง, สหประชาชาติ (UN) กล่าวว่าการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดิน ของกองทัพอิสราเอลต่อเมืองราฟาห์จะถือเป็นฝันร้ายของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา, คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐมีความกังวลเกี่ยวกับระดับการมีส่วนร่วมของภาคการผลิตจีนต่อการดำเนินงานที่ท่าเรือที่สำคัญของสหรัฐ, เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำกรุงวอชิงตันดีซี ของสหรัฐ ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากสถานเอกอัครราชทูตจีนในฟิลิปปินส์ จากกรณีที่แสดงความคิดเห็นล่าสุดเกี่ยวกับทะเลจีนใต้

โดยสถานเอกอัครราชทูตจีนกล่าว่า คำพูดนายโรมูลอัลเดซไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงพื้นฐาน และก่อให้เกิดการกล่าวหาต่างๆ นานา และการมุ่งร้ายต่อจีน รวมทั้งทาง ส.อ.ท.รายงานว่าสินค้าด้อยคุณภาพทุ่มตลาดไทยกระทบภาคเอกชน โดยยอดขายสินค้าไทยตกกว่า 30% แนะนำรัฐเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าไม่มีมาตรฐานและจับตาสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

ทั้งนี้ แนะนำจับตาการรายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทยในวันนี้ (5 มี.ค. 67), สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) และแถลงสถานการณ์การส่งออก ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันนี้ (5 มี.ค. 67) ได้แก่ 1.จีน จะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ. 2.อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ. 3.สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ., ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค.

3.วันที่ 6 มี.ค. นายพาวเวล แถลงนโยบายต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร 4.อียูรายงานยอดค้าปลีกเดือนม.ค. 5.สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค. 6.วันที่ 7 มี.ค. นายพาวเวลแถลงนโยบายต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา และ 7.วันที่ 19-20 มี.ค. จะมีการกำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) SPA และ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ทิศทางราคาทองคำในเดือนมี.ค. ยังคงต้องจับตาการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 19-20 มี.ค. อีกทั้งตลาดยังจับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐหดตัวต่ำกว่าคาดจะเป็นแรงหนุนต่อทองคำ

โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าหากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐแย่กว่าคาดการณ์ และสถานการณ์ในทะเลแดงทวีความรุนแรงมากขึ้น จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ และหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม

Back to top button