COCOCO ลุยขยายฐานลูกค้า-เพิ่มกลยุทธ์ ดันรายได้ปี 67 โต 40%

COCOCO ปักธงรายได้ปีนี้เติบโต 40% รุกขยายฐานลูกค้า และเพิ่มกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ วางงบลงทุน 1.5 พันลบ. รองรับกำลังผลิตเพิ่มขึ้น คาดปี 69 แตะ 3.91 แสนตัน


ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโต 30-40% เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มกลยุทธ์การตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายในต่างประเทศและมีการขายแบรนด์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ ทิศทางผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมะพร้าว ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี สอดคล้องธุรกิจน้ำมะพร้าวที่ยังอยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์สุขภาพทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตกว่าปีก่อน

บริษัทฯ วางงบลงทุนปีนี้ 1.5 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นลงทุน 1.ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวและผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ที่ 1,472 ล้านบาท 2. ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง( ThaiAwesome) อยู่ที่ 23 ล้านบาท และ 3. ธุรกิจอาหารที่ทำจากพืช (TPF) อยู่ที่ 5 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดปี 2026 กำลังการผลิต Coconut Water Product ขยับขึ้นไปแตะ 391,000 ตันในปี 2026 จากกำลังการผลิตปี 2024 อยู่ที่ 295,000 ตันต่อปี

ดร.วรวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ภายหลังบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566ที่ผ่านมานั้น ตนเองและทีมงาน มีโอกาสได้เดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าระดับประเทศ รวมถึงเข้าพบปะลูกค้าในกลุ่มประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดี พร้อมทั้งไปสำรวจวัตถุดิบหลักมะพร้าว ซึ่งจากการเดินทางไปต่างประเทศช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีความต้องการผลิตภัณฑ์เข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถเปิดช่องทางสู่ตลาดที่ยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้น

นางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ COCOCO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2566 ทำ All Time High  โดยมีกําไรสุทธิอยู่ที่ 540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เทียบกับปี 2565 มีกําไรสุทธิอยู่ที่ 307 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,680 ล้านบาท เติบโต 38% เทียบกับปี 2565 มีรายได้อยู่ที่ 3,387 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากยอดขายต่างประเทศทั้งในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะรายได้จากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมะพร้าวที่ขายไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น

สัดส่วนรายได้จากการขายต่างประเทศ ของปี 2566 อยู่ที่ 4,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% เทียบกับปี 2565 โดยมาจากการจําหน่ายไปยังประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว นอกจากนี้ บริษัทฯ เพิ่มช่องทางการตลาด ช่องทางการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมในหลายประเทศ ส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดต่างประเทศ คือ ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมะพร้าว โดยปี 2566 มีสัดส่วนการส่งออก 86% ของรายได้จากขาย” นางสาวพัฒรา กล่าว

Back to top button