“สุเชษฐ์” แนะเก็งกำไร 5 หุ้น พื้นฐานดี-รับปัจจัยบวกเฉพาะ

 “สุเชษฐ์ สุขแท้”แนะหุ้นซื้อเก็งกำไร CPALL-BH พ่วง AMATA-KTB รับอานิสงส์เบิกจ่ายงบปี 67 และ KAMART หลังทิศทางธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ให้กรอบแนวรับ 1,385–1,370 จุด แนวต้าน 1,395-1,405 จุด


นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัท หลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด หรือ ASL เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (19 มี.ค. 67) ว่าตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบในหลายด้าน อาทิ การประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยคาดการณ์ว่าจะยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งนับเป็นแรงกดดันส่งผลให้ลักษณะตลาดในช่วงสัปดาห์นี้แกว่งตัว โดยให้แนวรับที่ 1,385 – 1,370 จุด แนวต้าน 1,395-1,405 จุด ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 66 ถึงมีนาคม 67 ยังสามารถยืนอยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 1,350 จุด

ทั้งนี้ หุ้นหลายตัวในตลาดมีการปรับตัวขึ้น แต่ตลาดในภูมิภาคเอเชียยังคงรอการเปิดเผยการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ ที่กล่าวมา ซึ่งแนะนำระมัดระวังการลงทุน พร้อมทั้งตลาดยังมีแรงกดดันเพิ่มจากการเทรดของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากยังมีความสับสนถึงถือทิศทางการลดดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ

โดยหากพูดถึงปัจจัยภายในประเทศที่อาจเป็นแรงหนุนตลาด 2 เรื่อง คือ 1.เทศกาลสงกรานต์ 21 วัน จะสามารถทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และ 2.การอนุมัติงบประมาณประจำปี 67 ทั้งนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบมากขึ้น และจะเห็นได้ชัดจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 นับตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 67 ขณะที่ งบประมาณจะมีการเบิกจ่ายอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 67 ส่งผลให้ครึ่งปีหลังตลาดจะมีความคึกคักมากขึ้น

นอกจากนี้ ทิศทางเศรษกิจภายนอกประเทศมีทิศทางขาขึ้น และหากมองภายในประเทศที่สามารถบอกถึงสัญญาณเศรษฐกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือกลุ่ม “ปิโตรเคม” ซึ่งอาจจะมีการฟื้นตัว

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน “ซื้อเก็งกำไร” อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ให้แนวรับที่ระดับ 56-55.50 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 57.25 -58.75 บาท, บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ให้แนวรับที่ 227-224 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 234-239 บาท

นอกจากนี้แนะนำ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA  โดยให้แนวรับที่ 23.70-23.20 บาท แนวต้านอยู่ที่ 24.10-25.00 บาท, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ให้แนวรับที่ 16.10-15.60 บาท แนวต้านอยู่ที่ 16.50-17.00 บาท หลังได้อานิสงส์การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 67 และ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ให้แนวรับอยู่ที่ 15.00-14.50 บาท แนวต้านอยู่ที่ 15.50-15.90 บาท ทั้งนี้หากต่ำกว่า 15 บาทแนะนำเข้าซื้อ หลังบริษัทมีทิศทางการเติบโตที่ต่อเนื่อง

Back to top button