“สารัชถ์” ลั่นเวอร์ชวลแบงก์คืบ! ดึง KTB-AIS-OR ตั้งบ.ร่วมทุน

“เจ้าสัวสารัชถ์” เดินหน้าตั้งบริษัทร่วมทุน 4 ปาร์ตี้ “กัลฟ์-กรุงไทย-เอไอเอส และโออาร์” ทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท ยื่นขอใบอนุญาต “เวอร์ชวลแบงก์” พร้อมดึง Gulf Binance เสริมเขี้ยวเล็บ AIS เดินหน้าประมูลรีนิวรอบสอง 3,600 เมกะวัตต์


นายสารัชถ์ รัตนาวะดี รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่า ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) บริษัทก็มีความพร้อมในความร่วมมือกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เชื่อว่าทั้ง 2 บริษัทมีความพร้อม และขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เกี่ยวกับความพร้อมในการเข้าร่วมว่ามีมากน้อยแค่ไหน

โดยเตรียมงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการจดทะเบียนและเทคโนโลยี ส่วนสัดส่วนการถือหุ้นทั้ง GULF ธนาคารกรุงไทย และ AIS เฉลี่ย 33% และจะเฉลี่ยการลงทุนสัดส่วนที่เท่า ๆ กัน อย่างไรก็ตามด้านการแข่งขันหลังได้ใบอนุญาต Virtual Bank ก็ต้องมองทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการ

สำหรับไทม์ไลน์ตั้งเวอร์ชวลแบงก์ วันที่ 20 มี.ค. 2567 คือวันรับสมัคร ไปจนถึงปิดรับสมัครวันที่ 19 ก.ย. 2567 จากนั้นแบงก์ชาติและกระทรวงการคลังจะพิจารณาคุณสมบัติ ใช้เวลาประมาณ 9 เดือน ตามไทม์ไลน์คาดว่าเดือน มิ.ย. 2568 จะประกาศรายชื่อ เตรียมความพร้อม และคาดว่าปี 2569 ประมาณเดือน มิ.ย. เวอร์ชวลแบงก์จะเริ่มให้บริการ

นอกจากนี้ บริษัทมีความสนใจในตัวของทรัพย์สินดิจิทัล และที่เลือก Binance เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงและความปลอดภัยในการลงทุน นอกจากในเรื่องทรัพย์สินดิจิทัลแล้ว และอนาคตหากสามารถร่วมกับทาง AIS ได้ก็น่าจะมีประโยชน์ เนื่องจากอนาคตธุรกรรมต่าง ๆ ทุกอย่างอยู่บนมือถือหมดแล้ว ก็มองว่าจะช่วยต่อยอดร่วมกันได้

ในส่วนธุรกิจพลังงาน ล่าสุดรัฐบาลเพิ่งออกนโยบายพลังงานสีเขียว ในเรื่องของค่าไฟฟ้าให้กับอุตสาหกรรมต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศใช้ไฟสีเขียวได้ 24 ชม. ราคาประมาณ 4.50 บาทต่อหน่วย คาดว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะเปิดให้จองใช้ได้เร็ว ๆ นี้

ส่วนการประมูลโรงไฟฟ้าที่ภาครัฐจะมีการเปิดประมูล 3,600 เมกะวัตต์ ยังไม่ทราบว่าจะเปิดเมื่อไหร่ แต่ถ้าเปิดก็สนใจที่จะเข้าร่วม ยังเน้นด้านพลังงานสะอาดเป็นหลัก

ทั้งนี้ มองเศรษฐกิจปีนี้ว่าจะดีขึ้น แม้ปีที่ผ่านมางบประมาณประจำปีออกมาช้า จึงมองว่าค่อนข้างเงียบเหงา แต่พองบประมาณปี 2567 กับงบประมาณปี 2568 ออกมา เศรษฐกิจก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นเพราะรัฐบาลก็พยายามเปิดให้มีลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ด้าน นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Gulf Binance) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเปิดบัญชี 900,000 ราย ซึ่งยังคงเป้าหมายเดิม นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าภายใน 1-2 ปี จะเป็นเบอร์ 1 ในด้านของเทรดดิ้งวอลุ่ม และมาร์เก็ตแชร์

ด้านการดำเนินงาน บริษัทยึด 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. การพัฒนาประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง 2. การสร้างชุมชนผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลที่เข้มแข็ง 3. การเพิ่มการยอมรับในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการเรียนรู้ 4. การดำเนินงานที่มีแนวทางมุ่งเน้นไปยังผู้ใช้เป็นสำคัญ และ 5. รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอย่างเคร่งครัด

นายริชาร์ด เทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Binance กล่าวยกย่อง GULF  ในฐานะผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ขณะที่ไบแนนซ์ คือผู้นำด้านเทคโนโลยีและผู้ให้บริการบล็อกเชน ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะสามารถร่วมกันสร้างซินเนอร์ยี่ให้กับ Gulf Binance และแพลตฟอร์มในไทยได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ โดยระบุว่ายิ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากขึ้นเท่าไหร่ ความผันผวนก็จะยิ่งมากขึ้นตาม โดยสินทรัพย์เกิดใหม่มักจะมีความผันผวนเป็นปกติอยู่แล้ว

ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยติดอันดับ 10 ของประเทศที่ยอมรับและนำคริปโตมาเพื่อการใช้และลงทุนถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ถึงแม้จะติดอันดับ 10 ปริมาณการใช้งานคริปโตในตลาดก็มีเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีช่องทางให้เติบโตในตลาดอีกมาก

Gulf Binance และ Binance จะให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นหลัก และมุ่งเน้นในการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน ในส่วนของราคาบิตคอยน์ที่จะมีการ Halving หรือ ฮาฟวิ่ง คือ เหตุการณ์การแบ่งครึ่งบล็อกของบิตคอยน์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุก 4 ปี ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.นี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวของราคาตามมา โดยบิตคอยน์มักจะพุ่งแตะราคาสูงสุดใหม่ทุก ๆ หกเดือนขึ้นไปหลังจากที่ปรับตัวลดลงครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปีนี้แตกต่างออกไป เนื่องจากอุปสงค์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลจากกองทุน ETF มีมากขึ้น

Back to top button