“โตโยต้า ทูโช-เดนโซ่” จับมือ NEX พัฒนายานยนต์ “อีวี” พลังงานไฮโดรเจนรายแรกในไทย

โตโยต้า ทูโชและเดนโซ่ จับมือ NEX พัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์พลังงานไฮโดรเจนรายแรกในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าไตรมาส 4/67 เผยต้นแบบยานยนต์ มุ่งบริการกลุ่มบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจ หวังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากภาคขนส่ง


นายทาคาฮิโระ อาราอิ (Takahiro Arai) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวัตถุดิบยานยนต์และเศรษฐกิจนิเวศน์ บริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TOYOTA TSUSHO CORPORATION) และ นายจุน คาวามูระ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาโซลูชั่นพลังงาน บริษัท เดนโซ่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DENSO  CORPORATION) ร่วมลงนามในพิธีประกาศความร่วมมือระหว่างสามฝ่าย ซึ่งเป็นการประกาศจับมือกับ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX

โดยร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าพาณิชย์พลังงานไฮโดรเจน รายแรกในประเทศไทยครั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งนำไปให้บริการในกลุ่มบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการนำมาใช้งานเชิงพาณิชย์ในประเทศ ขณะที่มุ่งเน้นสำหรับการใช้งานในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งมีเป้าหมายให้รถที่ผลิตนั้นสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือสูงกว่ารถสันดาป พร้อมกับสามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง หวังลดการปล่อยมลภาวะ โดยมีเป้าหมายเร่งผลิตต้นแบบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนให้แล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 67

ขณะที่ หากโครงการความร่วมมือประสบความสำเร็จทางกลุ่มผู้พัฒนามีแผนที่จะขยายขนาดของโครงการเป็นฟลีทขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพของห่วงโซ่อุปทานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศ และลดผลกระทบต่อระบบนิเวศจากภาคขนส่ง ทั้งนี้ ที่เลือกจับมือกับ NEX เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและความมั่นคง

อีกทั้ง ในฐานะเป็นบริษัทผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของประเทศไทยที่มีโรงงานผลิตและประกอบยนต์ยานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แบบครบวงจร มีการผลิตรวมถึงส่งออกเป็นที่ยอมรับในอาเซียน ที่สำคัญเป็นบริษัทฯ ที่อยู่ใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะใช้จุดแข็งของ TOYOTA TSUSHO DENSO และ NEX มาผสานให้เกิดความแข็งแกร่งร่วมกัน

ด้าน นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX กล่าวว่าความร่วมมือระหว่าง NEX กับกลุ่ม โตโยต้า และ โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) รวมถึงกลุ่มบริษัทเด็นโซ่ เป็นการพัฒนาที่ก้าวไปอีกขั้นจากการผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า 100 % มาเป็นพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตอบสนองความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของรัฐบาลที่พยายามผลักดันและสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ทั้งรถบัสโดยสารไฟฟ้ารวมถึงรถบรรทุกไฟฟ้า

โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำมาหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า ในกรณีที่ซื้อรถที่ผลิตหรือประกอบในประเทศ รวมทั้งผลักดันให้หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจเปลี่ยนมาใช้รถ EV เพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และฝุ่น PM2.5 คาดการณ์ว่าจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์พลังงานไฮโดรเจน ได้สำเร็จในไตรมาส 4 ปี 67 นี้แน่นอน

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการออกแบบบูรณาการรถบรรทุก โดย โตโยต้า ทูโช รับผิดชอบทางด้านการประสานงานโครงการพัฒนาการจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฮโดรเจน และให้ความร่วมมือในการประเมินประสิทธิภาพของยานพาหนะ ส่วนเดนโซ่ จะพัฒนาและจัดเตรียมข้อมูลของระบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) รวมถึงการสนับสนุนด้านเทคนิคร่วมมือในการประเมินรถ สุดท้าย NEX รับผิดชอบในการพัฒนารถการผลิตและดัดแปลงยานยนต์ที่จะใช้เป็นพื้นฐานรวมถึงการติดตั้งทดสอบผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด

อนึ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจยานยนต์ไทย เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ส่งออกไทยที่กำลังเผชิญกับมาตรการซีแบม (CBAM) และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากภาคขนส่ง เพื่อส่งเสริมและตอบสนองนโยบายของรัฐบาล

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาโตโยต้า ทูโช และ เดนโซ่ มีการพัฒนาระบบ (Fuel Cell) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรงผ่านกระบวนการทางเคมีไฟฟ้า โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเผาไหม้ ถือเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง โดยได้นำไปใช้งานด้านพลังงานต่างๆ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยนำมาใช้ในยานพาหนะที่ผลิตในประเทศไทย ดังนั้น โครงการนี้จึงเป็นโครงการความร่วมมือแรกที่ NEX และโตโยต้า ทูโช จะร่วมกันพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งมุ่งเน้นที่ยานยนต์เชิงพาณิชย์เป็นหลัก เนื่องจากสามารถช่วยลดผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากที่สุด

ทั้งนี้ นายคณิสสร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์ของ NEX มีกำลังการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละประมาณ 9,000 คัน ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังมีขีดความสามารถในการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และมองว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าของ NEX ซึ่งมีทั้งรถบัสไฟฟ้า, รถโดยสารไฟฟ้า , รถตู้ไฟฟ้า, รถกระบะไฟฟ้า, รถบรรทุกไฟฟ้า และรถหัวลากไฟฟ้า โดยมาจากยอดขายรถ 5,566 คัน และปัจจุบันยังมีคำสั่งซื้อค้างอยู่  2,757 คัน เป็นรถบัสโดยสารไฟฟ้าเกือบ 1,000  คัน และรถบรรทุกไฟฟ้าอีกกว่า 1,000 คัน

ขณะที่ คาดการณ์ว่าจะส่งมอบรถตามออเดอร์ได้ทั้งหมดในปี 67 นอกจากนี้ยังมีรถกระบะ EV จำนวน 229 คันที่จองในงาน Motor Expo เมื่อเดือนธันวาคม 66 น่าจะส่งมอบได้ภายในครึ่งปีแรกปี 67 ทั้งนี้ความไว้วางใจจาก โตโยต้า ทูโช และ เดนโซ่ เป็นการตอกย้ำถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและศักยภาพของบริษัท โดยในครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะดันเป้าหมายของ NEX ให้เติบโตแข็งแกร่งมีผลประกอบการประมาณ 20,000 ล้านบาท ในสิ้นปี 67 ตามที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

Back to top button