คัด SAT-AH-STANLY เด่น รับดีมานด์ “รถไฟฟ้า” ฟื้นตัวไตรมาส 2

“บล.พาย” ส่งสัญญาณบวกกลุ่มยานยนต์ไทย เริ่มฟื้นฐานต่ำ อานิสงส์ยอดผลิตรถไฟฟ้าพุ่งทะลุ 5,000 คันต่อเดือน ยอดจอง Motor Show โต 45% หนุนแนวโน้มไตรมาส 2/68 ดีขึ้น เชียร์ซื้อ SAT ราคาเป้าหมาย 16.70 บาท พร้อมคงคำแนะนำ “ถือ” AH-STANLY รับปัจจัยบวกจากการผลิตในประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงาน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึงข้อมูลจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดตัวเลขกลุ่มยานยนต์ประจำ เดือน มี.ค. 68 มีการผลิตรถยนต์ 129,909 คัน ลดลง 6% จากปีก่อนหน้า แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบระหว่างเดือน ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังอยู่ในช่วงขาลง

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นระดับที่ต่ำกว่า 10% เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ได้รับผลดีจากยอดขายในประเทศที่ลดลงเพียง 1% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 55,798 คัน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบระหว่างเดือน ส่วนการส่งออก อยู่ที่ 80.914 คัน ลดลง 15% จากปีก่อนหน้าและลดลง 1% เมื่อเทียบระหว่างเดือน

ขณะที่ เทียบกับ มี.ค. 67 ลดลงในทุกกลุ่ม แต่ถือว่าเป็นระดับการลดลงที่ไม่มากนักตามที่กล่าวไปข้างต้น และหากเทียบกับ ก.พ. 68 ฟื้นตัวแรงในกลุ่มของยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบระหว่างเดือน ส่วนหนึ่งเกิดจากการจัดงาน Motor Show ที่เริ่มในช่วงปลายเดือน ส่วนการผลิตเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบระหว่างเดือน ได้รับผลดีจากจำนวนวันทำงานที่มากขึ้น (31 วันเทียบกับ 28 วัน)

ทั้งนี้ ตัวเลขกลุ่มรถไฟฟ้า (EV) ประจำเดือน มี.ค.68 นั้นมียอดจดทะเบียน อยู่ที่ 7,570 คัน เพิ่มขึ้น 51% จากปีก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบระหว่างเดือน ขณะที่ ยอดขายมีจำนวน 8,179 เพิ่มขึ้น 77% จากปีก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบระหว่างเดือน

ด้านการผลิต (นับเฉพาะกลุ่ม BEV ) มีจำนวน 5,412 คัน เพิ่มขึ้น 582% จากปีก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 141% เมื่อเทียบระหว่างเดือน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% ของการผลิตรถยนต์บังในประเทศหรือ 4% ของการผลิตทั้งหมด โดยถือเป็นสถิติดีใหม่ของการผลิต BEV ในประเทศ

ขณะที่ ยอดการผลิตรถยนต์ในสะสมช่วงไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 352,499 คัน ลดลง 15% จากปีก่อนหน้าแต่เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วน 24% ของเป้าการผลิตในปี 68 ที่ สภาอุตสาหกรรม คาดการณ์ไว้ 1.5 ล้านคัน ซึ่งในเดือน เม.ย. ยอดการผลิตจะลดลงมากจากการมีวันหยุด

รวมถึงผลกระทบจาก สงครามการค้าสหรัฐ อาจจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญมีปัญหา ซึ่งทำให้การให้การส่งออกลดลง พร้อมกับส่งผลทำให้เป้าการผลิตทั้งปีที่ประเมินไว้ยังมีความเสี่ยงที่จะไปถึง นอกจากนี้ จากตัวเลขการผลิตที่ลดลงทำให้แนวโน้มผลผลประกอบการของผู้ผลิตชินส่วนในช่วงไตรมาส 1/68 จะยังเห็นการชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่อีกไตรมาส

สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เริ่มเห็นสันสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง หลังจากมียอดผลิตสูง 5,000 คัน โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าการผลิตในเดือน เม.ย-พ.ค.68 ยังมีโอกาสเห็นการเพิ่มขึ้นต่อ หลังจากยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show เติบโต 45% โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่ม BEV อย่าง BYD, MG, GWM ที่มียอดจองในงานเติบโตขึ้นทุกราย

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์คงคำแนะนำการลงทุน แม้การผลิตจะติดลบน้อยอยลง แต่ทำให้การผลิตทั้งปีน่าจะไม่ถึงเป้าที่ 1.5 ล้านคัน ขณะที่ ยอดผลิตรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงแรกอาจจะยังใช้ชิ้นส่วนในประเทศไม่มากนัก ทำให้ยังเกิดผลดีต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ ส่งผลทำให้แนวโน้มผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/68 คาดการณ์ว่าจะยังเห็นการชะลอตัวจากปีก่อนต่อ

ดังนั้น ฝ่ายนักวิเคราะห์จึงคงน้ำหนักการลงทุนที่ “น้อยกว่าตลาด” จนกว่าจะเห็นสัญญาณพื้นตัวของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามระยะยาวฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่ายานยนต์ไทยยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ หลังจากผู้ผลิตจาก ญี่ปุ่น เริ่มหันมาทำรถ EV ในประเทศมากขึ้น ซึ่งล่าสุด ISUZU เตรียมประกอรถกระบะ EV ในช่วงไตรมาส 3/68 นี้แล้ว

โดยกลยุทย์การลงทุนฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” สำหรับหุ้น บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ให้ราคาพื้นฐานที่ 16.70 บาท นอกจากนี้แนะนำ “ถือ” สำหรับ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ราคาพื้นฐานที่ 13.40 บาท และ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY ราคาพื้นฐาน 16.70 บาท

Back to top button