FM ฟอร์มแจ่ม! กวาดกำไร Q1 โต 58% แตะ 192 ล้านบาท รับรายได้ไก่ปรุงสุกพุ่ง-ต้นทุนลด

บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 พบว่ามีกำไรสุทธิ ดังนี้

บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 192.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 121.57 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนบริษัทมีรายได้รวม 1,819 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 1,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.7% โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV) มียอดขาย 675 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144 ล้านบาท หรือ 27.10% จากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มยุโรปที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละ มียอดขาย 1,144 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 1,206 ล้านบาทลดลง 62 ล้านบาท หรือ 5.1% ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 16.2% เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 11.9% เพิ่มขึ้น 4.3%

ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV) มีปริมาณการขาย 5.0 ล้านกิโลกรัมเทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 3.6 ล้านกิโลกรัมที่ราคาเฉลี่ย 135.0 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 146.7 บาทต่อกิโลกรัมปรับลดลง 11.7 บาทต่อกิโลกรัม

ด้านต้นทุนขายเฉลี่ยอยู่ที่ 112.6 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 127.1 บาทต่อกิโลกรัม ปรับลดลง 14.5 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้กำไรขั้นต้นต่อกิโลกรัมเพิ่มขึ้น 2.8 บาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.6% เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 13.4%

อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นไม่เพียงมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง แต่ยังเกิดจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ (Product Mix) และช่วงราคาขายที่แตกต่างจากปีก่อนหน้า

ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละมีปริมาณการขาย (ไม่รวมการขายภายในกลุ่มบริษัท) อยู่ที่ 20.7 ล้านกิโลกรัม เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 20.5 ล้านกิโลกรัม ที่ราคาเฉลี่ย 55.2 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 58.8 บาทต่อกิโลกรัม ปรับลดลง 3.6 บาทต่อกิโลกรัม

ขณะที่ต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 46.4 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 52.2 บาทต่อกิโลกรัม ลดลง 5.8 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 2.2 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.0% เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 11.2%

อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบหลัก เช่น ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารสัตว์ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่ลดลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้อื่นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขายเศษซากและวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในการผลิต รวมถึงดอกเบี้ยรับจากเงินฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.0% – 2.3% ต่อปี ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคิดเป็น 3.8% ของยอดขาย เทียบกับไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 4.0% ของยอดขาย ปรับตัวลดลงเนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ ไม่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ IPO ต้นทุนทางการเงิน ลดลง 2.0 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการที่เติบโต ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพื่อใช้ในการดำเนินงานอย่างเพียงพอ