EA ชงผู้ถือหุ้นกู้โหวตแผน “รีเซ็ตหนี้” หวังคืนความมั่นคง-ดึงพาร์ตเนอร์ร่วมทุน

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งพิเศษที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาและอนุมัติแนวทางบริหารจัดการหุ้นกู้ของบริษัท เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โดยภายใต้สถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลง บริษัทได้ทบทวนกระแสเงินสด พร้อมวางแผนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการชำระคืนหุ้นกู้ 14 ชุด ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนระหว่างเดือนกรกฎาคม 2568 ถึงมกราคม 2576 เพื่อให้การบริหารหนี้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน พร้อมยืนยันความเป็นธรรมและความเท่าเทียมของผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุด โดยรายละเอียดแผนดังกล่าวครอบคลุมการขยายระยะเวลาการไถ่ถอนหุ้นกู้ การให้สิทธิ Call Option แก่บริษัท การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย การแบ่งชำระคืนเงินต้นบางส่วน รวมถึงการจัดทำและแก้ไขเอกสารหุ้นกู้ให้สอดคล้องกับแผน

โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน เป็นผู้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อขออนุมัติแผนการปรับเปลี่ยนรายละเอียดการชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าว

นายวสุ กล่าวต่อว่า บริษัทกำลังเผชิญความท้าทายด้านสภาพคล่องอย่างหนักจากภาระหนี้สินสะสม โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้จำนวนมาก ส่งผลต่อศักยภาพในการฟื้นตัวของบริษัท แม้ว่ารายได้จากการดำเนินงานยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยปีที่ผ่านมา EA สร้างรายได้รวมกว่า 7,600 ล้านบาท แต่รายได้ส่วนใหญ่ถูกนำไปชำระหนี้จนไม่เหลือกำไรในงบการเงิน

บริษัทได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับลดโครงการบางส่วนและระดมทุนเพิ่มทุน (Rights Offering) ได้เงินกว่า 7,400 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถฟื้นตัวเต็มที่เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ถูกใช้ชำระหนี้ทันที

ในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว EA อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เพื่อขอวงเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจำนวน 10,000 ล้านบาท รวมเป็น 20,000 ล้านบาท โดยในเฟสแรก คาดว่าบริษัทฯ ได้รับการปรับโครงสร้างระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ (repayment profile) ประมาณ 11 ปีครึ่ง เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินของบริษัท ขณะที่ในเฟส 2 อาจขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เพิ่มเติมเป็น 20 ปี เพื่อรองรับแผนธุรกิจระยะยาว และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทได้ชำระหุ้นกู้รุ่น EA248A และ EA249A รวมมูลค่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 โดยบริษัทได้ดำเนินการชำระคืนเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2568 ทั้งนี้ บริษัทได้รับเงินทุนจากสถาบันการเงินและดำเนินการชำระคืนทันที เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จริงจังและมุ่งมั่นในการฟื้นฟูกิจการอย่างต่อเนื่อง

นายวสุ กล่าวย้ำอีกว่า “เป้าหมายของเราคือการรีเซ็ตโครงสร้างพื้นฐานบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่ประนอมหนี้ แต่เพื่อดึงพาร์ตเนอร์ใหม่เข้าร่วมสนับสนุนและวางรากฐานให้บริษัทกลับมาแข็งแกร่งและยั่งยืน” โดยขณะนี้ EA อยู่ระหว่างขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้วงเงินรวม 25,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในรูปแบบ Advance Restructuring ครอบคลุมระยะเวลาประมาณ 6 ปี พร้อมเสนอผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยเพิ่ม 0.50% ต่อปี

นายวสุ ยังได้ชี้แจงความเสี่ยงต่อนักลงทุนว่า ด้วยภาระหนี้สูงและสภาพคล่องที่จำกัด การลงทุนใน EA มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในสตาร์ทอัพ เนื่องจากเงินลงทุนส่วนใหญ่ต้องใช้ชำระหนี้ทันที และระบุว่าภาระหนี้ต้องชำระในปี 2568 รวมประมาณ 15,000 ล้านบาท และปี 2569 อีกประมาณ 13,000 ล้านบาท รวมสองปีราว 28,000 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA ในปี 2566 อยู่ที่ 13,240 ล้านบาท ส่วนในปี 2567 อยู่ที่ 8,016 ล้านบาท ยังไม่สามารถปรับอันดับเครดิตได้ตามที่คาดหวัง

อย่างไรก็ดี บริษัทประเมินโอกาสสำเร็จในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้อยู่ที่ประมาณ 90% และพร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรใหม่ รวมถึงเพิ่มทุนผ่าน Private Placement เพื่อเพิ่มสภาพคล่องอย่างยั่งยืน

โดยปัจจุบันผู้ถือหุ้นกู้ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นสถาบันการเงินบางแห่ง กลุ่มบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ และกองทุน ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเหล่านี้ จะช่วยเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเจรจากับผู้ถือหุ้นกู้รายย่อยต่อไป

นายวสุ กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทมีศักยภาพพร้อมเดินหน้าต่อ แต่ต้องผ่านกำแพงภาระหนี้ 28,000 ล้านบาทในสองปีให้ได้ก่อน จากนั้น EA จะกลับมาแข็งแกร่งและยั่งยืนอีกครั้ง

รวมถึงบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินชั้นนำและผู้ถือหุ้นอย่างเต็มที่ สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและวิสัยทัศน์ของทีมผู้บริหาร พร้อมเดินหน้าปรับแผนการชำระหนี้อย่างรอบคอบ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและรองรับการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน