
WTI ปิดพุ่งเกือบ 3% หวั่นไฟป่าแคนาดาฉุดซัพพลาย–”โอเปกพลัส” คงแผนผลิตก.ค.
น้ำมัน WTI ปิดบวกเกือบ 3% ตลาดหวั่นไฟป่าในแคนาดาฉุดซัพพลายลด 7%–โอเปกพลัสคงแผนเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันเดือน ก.ค. ตามแผน และการอ่อนค่าของดอลลาร์หนุนแรงซื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 3% ในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) เนื่องจากเทรดเดอร์มีความกังวลเรื่องซัพพลายน้ำมัน หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นในปริมาณเท่าเดิมต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันก็กังวลเรื่องสถานการณ์ไฟป่าในแคนาดาที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตด้วย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 62.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 2.95% ปิดที่ 64.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ที่ประชุมโอเปกพลัสเมื่อวันเสาร์ (31 พ.ค.) มีมติเดินหน้าเพิ่มการผลิตตามแผนเดิม ท่ามกลางความพยายามของกลุ่มในการชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมา รวมถึงเพื่อลงโทษประเทศสมาชิกที่ผลิตน้ำมันเกินโควตาที่กำหนดไว้
เทรดเดอร์ในตลาดน้ำมันกล่าวว่า การตัดสินใจของโอเปกพลัสในครั้งนี้ได้ถูกสะท้อนในราคาล่วงหน้าไปแล้ว โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ และน้ำมัน WTI ต่างปรับตัวลงมากกว่า 1% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ไฟป่าที่กำลังลุกไหม้อยู่ในรัฐแอลเบอร์ตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของแคนาดา ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบโดยรวมของประเทศไปแล้วประมาณ 7% นับจนถึงวันที่ 2 มิ.ย. โดยนักวิเคราะห์เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าในรัฐแอลเบอร์ตาเริ่มส่งผลกระทบต่อการซื้อขายแล้ว
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐก็ช่วยหนุนราคาเช่นกัน โดยเป็นผลมาจากความกังวลว่าภัยคุกคามด้านภาษีรอบใหม่ของสหรัฐฯ อาจทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระตุ้นเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์ เช่น น้ำมัน มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่น