
“ทรีนีตี้” มอง SET50 ผ่านจุดต่ำสุด ลุ้นครึ่งปีหลังทะลุ 740 จุด
“บล.ทรีนีตี้” ประเมินดัชนี SET50 ใกล้สิ้นสุดแนวโน้มขาลง หากผ่านแนวต้าน 740 จุด มีโอกาสเปลี่ยนเป็นขาขึ้น พร้อมชี้ตลาดเริ่มรับรู้ความเสี่ยงครบ หนุนบรรยากาศลงทุนฟื้นตัวครึ่งปีหลัง
นายเดชธนา ฟางสะอาด ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการลงทุนในทองคำ นักลงทุนน้ำหนักควรพิจารณาราคาสปอตเป็นปัจจัยหลัก เนื่องจากราคาทองคำมีความสัมพันธ์โดยตรงกับทิศทางของตลาดโลกมากกว่าค่าเงินในประเทศ หากราคาสปอตไม่เอื้อ แม้เงินบาทจะแข็งค่าก็ไม่สามารถผลักดันราคาทองคำได้ นอกจากนี้ ยังแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนในกองทุนทองคำที่อ้างอิงหน่วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เช่น TFGO เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินบาท
ด้านภาพรวมตลาดหุ้นไทยมองว่าความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองภายในประเทศ และข่าวสารภายนอกที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา มีส่วนกดดันตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้ดัชนี SET50 ปรับฐานลงมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 และ 3/2568 ซึ่งหากไม่ได้แย่กว่าคาดการณ์ ตลาดย่อมมีโอกาสรีบาวด์และกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นในระยะถัดไป
ส่วนการวิเคราะห์ทางเทคนิค พบว่าดัชนี SET50 มีแนวโน้มใกล้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยพบรูปแบบการรีบาวด์แบบสองขา (double rebound) ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงขายเริ่มลดลงและนักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อ ทั้งนี้ หากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 740 จุดได้อย่างมั่นคง จะถือเป็นการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันเงื่อนไขสำคัญคือ ดัชนีจะต้องไม่หลุดระดับต่ำสุดเดิม เพื่อยืนยันการฟื้นตัวของ sentiment
นอกจากนี้ ยังพบสัญญาณจาก Volume Profile ชี้ให้เห็นว่าบริเวณ 940 จุดเป็นระดับที่มีปริมาณการซื้อขายสะสมอย่างหนาแน่น ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้ามา โดยเฉพาะเมื่อดัชนีปรับลงต่ำกว่าระดับดังกล่าว นักลงทุนจำนวนมากอาจอยู่ในภาวะขาดทุน ส่งผลให้แรงขายลดลงและเปิดทางให้ดัชนีมีโอกาสกลับตัว
“ในช่วงที่ตลาดปรับฐานลง นักลงทุนส่วนใหญ่แสดงอาการหวั่นวิตกกับข่าวลบอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ตลาดก็จะค่อย ๆ ปรับตัวกลับตามสมมติฐานเดิม โดยเฉพาะเมื่อความกลัวได้ถูกสะท้อนออกมาแล้วผ่านพฤติกรรมการขายก่อนหน้า” นายเดชธนา กล่าว
ทั้งนี้ ยังพบพัฒนาการเชิงบวกจากการที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเริ่มเข้าซื้อหุ้นของตนเอง บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานระยะยาว ขณะที่ระดับราคาปัจจุบันเริ่มกลับเข้าสู่จุดสมดุล เมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ในตลาดต่างประเทศ เช่น การประเมินมูลค่า AOT หากเทียบกับสนามบินทั่วโลก ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจในการลงทุน
ขณะที่ในส่วนของดัชนี SET50 Index Futures แม้ตัวเลขอาจแตกต่างจาก SET50 Spot เล็กน้อย แต่แนวโน้มและโครงสร้างกราฟยังคงสอดคล้องกัน นักลงทุนจึงสามารถใช้แนวทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคชุดเดียวกันในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน โดยเน้นการทยอยสะสมในช่วงที่ตลาดอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับสำคัญ พร้อมประเมินการฟื้นตัวตามข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน
นายเดชธนา ย้ำอีกว่า นักลงทุนควรมองไปข้างหน้าและวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่าจะจมอยู่กับภาวะความกลัวในปัจจุบัน และหากปัจจัยพื้นฐานเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โอกาสที่ SET50 จะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังย่อมมีความเป็นไปได้สูง