“ทองคำนิวยอร์ก” ปิดบวก วิตกหนี้สหรัฐ หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กขยับขึ้นเล็กน้อยหลังนักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลหนี้สหรัฐฯ แม้ถูกกดดันจากดอลลาร์แข็งค่าและแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก ในวันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 โดยได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังและหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่งเสริมให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปรับตัวขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ระดับ 3,321.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นักวิเคราะห์จากบริษัท Blue Line Futures ระบุว่า แม้ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังคงผันผวน แต่ความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และแนวโน้มหนี้สาธารณะที่เร่งตัวขึ้น เป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเลือกถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย “One Big Beautiful Bill” ซึ่งประกอบด้วยมาตรการลดภาษีและการใช้จ่ายภาครัฐวงเงินมหาศาล รวมหลายล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรส (CBO) คาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นอีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 97.556 ทำให้ราคาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและอ่อนแรงดึงดูดนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เผยแพร่รายงานการประชุมประจำวันที่ 17-18 มิถุนายน ซึ่งสะท้อนมุมมองของกรรมการเฟดส่วนใหญ่ว่าเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ โดยเชื่อว่าผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อเงินเฟ้อจะเป็นเพียงชั่วคราว ทั้งนี้ เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมดังกล่าว ขณะที่ Dot Plot บ่งชี้ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ รวม 0.50%

Back to top button