PSL รายได้เดินเรือวูบ-พิษ FX ฉุดไตรมาส 2 พลิกขาดทุน 43 ล้านบาท

PSL ไตรมาส 2 พลิกขาดทุน 43 ล้านบาท จากรายได้เดินเรือลด-ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 63 ล้านบาท แม้คุมต้นทุนได้บางส่วน แต่ภาวะตลาดอ่อนตัว-บาทแข็งยังเป็นแรงกดดันหลัก


บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 พลิกขาดทุนสุทธิ ดังนี้

โดยบริษัทรายงานกำไรไตรมาส 2/68 พลิกขาดทุน 43.31 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 529.52 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจาก 1.) รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (รายได้จากการเดินเรือหักด้วยรายจ่ายท่าเรือและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง) ในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2567 คิดเป็น 28%
สาเหตุหลักมาจากภาวะตลาดการขนส่งสินค้าที่อ่อนตัวลงและการแข็งค่าของสกุลเงินบาท เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือลดลงจาก 13,483 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2567 เหลือ 10,132 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2568

พร้อมทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 63.44 ล้านบาท มีสาเหตุหลักเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าที่เทียบเท่าในสกุล เงินดอลลาร์สหรัฐของหนี้สินสกุลเงินบาท

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลงประมาณ 7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2567
โดยมีสาเหตุหลักจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อพิจารณาเป็นเงินสกุลดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ (OPEX)  ซึ่งรวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับการซ่อมแซมและการสำรวจเรือ ลดลงจาก 5,226 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2567 เหลือ 5,135 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2568

อีกทั้ง ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (รวมถึงค่าตอบแทนผู้บริหาร) ในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.55 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าตอบแทนผันแปรที่ลดลงและผลจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายทางการเงินในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลง 4.40 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิรวม 183.55 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 939 ล้านบาทสำหรับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนมีดังต่อไปนี้ รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (ซึ่งเป็นรายได้จากการเดินเรือสุทธิหลังหักรายจ่ายท่าเรือและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สาเหตุหลักมาจากภาวะตลาดขนส่งสินค้าที่อ่อนตัวลง และการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือลดลงจาก 12,952 ดอลลาร์สหรัฐในครึ่งแรกของปี 2567 เหลือ 9,394 ดอลลาร์สหรัฐในครึ่งแรกของปี 2568
ทั้งนี้ กองเรือของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีจำนวน 40 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 36 ลำในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 20.50 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้และหุ้นกู้ รวมถึงขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับครึ่งแรกของปี 2568 จำนวน 90.73 ล้านบาท หลักๆ มาจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าที่เทียบเท่าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐของหนี้สินสกุลเงินบาท

Back to top button