THCOM เปิดงบ Q2 รายได้ 535 ล้านบาท หนุนอีบิทด้า 160 ลบ.

THCOM รายงานงบไตรมาส 2/68 รายได้แตะ 535 ล้านบาท รับรายได้จากธุรกิจดาวเทียม–Space Tech และโครงการ CarbonWatch หนุนอีบิทด้า 160 ล้านบาท


บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM รายงานผลการดำเนินงานงบการเงินไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ดังนี้

สำหรับ THCOM รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ขาดทุนสุทธิ 207.19 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 62.83 ล้านบาท แม้บริษัทฯ รายงานรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.0% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 500 ล้านบาท

โดยการเติบโตของรายได้นี้เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการควบคุมดาวเทียมสำหรับดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 ซึ่งดำเนินการให้แก่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป รวมถึงได้รับแรงสนับสนุนจากการทยอยกลับเข้ามาของรายได้จากโครงการ USO ระยะที่ 2 ของสำนักงาน กสทช.

ส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) สำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 160 ล้านบาท ลดลงจาก 195 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทฯ รายงานรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตและสื่อในไตรมาส 2/2568 รวม 17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 14 ล้านบาท จาก 3 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า และงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการรับรู้รายได้ในธุรกิจเทคโนโลยีอวกาศ (Space Tech) ผ่านโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) และโครงการโดรนร่วมกับ GISTDA

ต้นทุนขายและบริการในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 361 ล้านบาท ลดลง 3.5% จากไตรมาส 1/2568 ที่มีมูลค่า 374 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายด้านบริการดาวเทียมและค่าบำรุงรักษาสถานีภาคพื้นดินในต่างประเทศที่ลดลง โดยต้นทุนขายยังปรับลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับทิศทางรายได้

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร) ในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 179 ล้านบาท ลดลง 19 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน (198 ล้านบาท) และลดลง 76 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (255 ล้านบาท) โดยเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายและการให้บริการปรับตัวลดลง 16.2% เนื่องจากสิ้นสุดโครงการ USO ระยะที่ 2 ในไตรมาส 2/2568 แต่บริษัทสามารถชดเชยได้บางส่วนด้วยรายได้จากธุรกิจ Space Tech ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้แก่สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) และโครงการโดรนให้แก่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) รวมถึงความคืบหน้าโครงการ ‘CarbonWatch’ ที่ดำเนินการร่วมกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) ในเครือ SCG และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการขยายฐานรายได้อย่างต่อเนื่อง และการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสดังกล่าว

ในด้านผลการดำเนินงาน บริษัทสามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 14 ล้านบาท แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะที่ท้าทาย โดยหากพิจารณาเฉพาะธุรกิจด้านดาวเทียม บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมและส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจโทรคมนาคมจำนวน 38 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติถึง 24 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพการทำกำไรของธุรกิจหลักที่ยังคงแข็งแกร่ง

Back to top button