
THCOM บวกต่อ 7% รับสัญญาณครึ่งปีหลังฟื้น ลุยขยาย Space Tech-หนุนรายได้ USO
THCOM บวกต่อ 7% รับสัญญาณฟื้นครึ่งหลังปี 68 จากการรายได้โครงการ USO พร้อมขยายฐาน Space Tech ผ่านโครงการเกษตรอัจฉริยะ เพื่อช่วยวางแผนการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวได้แม่นยำขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ส.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ณ เวลา 11:47 น. อยู่ที่ระดับ 9.30 บาท บวก 0.65 บาท หรือ 7.51% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 9.40 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 8.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 79.99 ล้านบาท
นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน THCOM เปิดเผยว่าจากปัจจัยจากอัตราแลกเปลี่ยน จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในไตรมาส 2/2568 โดยสถานการณ์การแข็งค่าของค่าเงินบาทดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก รวมถึงบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากต่างประเทศ บริษัทตระหนักถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบ เช่น การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจในไตรมาส 2/2568 บริษัทสามารถทำกำไรจากการดำเนินงาน 14 ล้านบาท สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
โดยหากพิจารณาเฉพาะธุรกิจด้านดาวเทียมบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมและส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจโทรคมนาคม 38 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติ 24 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
ขณะที่รายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนมีรายได้ 500 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการของบริษัท ได้แก่ รายได้จากโครงการควบคุมดาวเทียมสาหรับดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 จากบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งบริษัทเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับปัจจัยหนุนจากการทยอยกลับเข้ามาของรายได้จากโครงการ USO ระยะที่ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และในปัจจุบันอยู่ในระหว่างรอยต่อไปสู่โครงการ USO ระยะที่ 3 จึงทำให้บริษัททยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการภายใต้โครงการดังกล่าว และคาดว่ารายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพื่อกลับเข้าสู่ระดับปกติในครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขายและการให้บริการปรับตัวลดลง 16.20% เกิดจากการสิ้นสุดของโครงการ USO ระยะที่ 2 ในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ Space Tech ผ่านโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้แก่สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)
รวมถึงโครงการโดรนให้แก่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รวมถึงความคืบหน้าของโครงการ “CarbonWatch” ผ่านการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) บริษัทในเครือบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของบริษัทในการขยายฐานรายได้อย่างต่อเนื่อง และการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 1,034 ล้านบาท ลดลง 16.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,247 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้ในประเทศ หลังจากการสิ้นสุดของสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (สัญญาสัมปทาน) รวมถึงรายได้จากธุรกิจให้บริการดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่องของบริษัท 1,022 ล้านบาท ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ USO ระยะที่ 2 ที่ยังไม่กลับเข้าสู่ระดับปกติอย่างเต็มจำนวน