
SET เช้าเด้ง 12 จุด เก็งกำไร “บจ.” งบ Q2 โตแรง! ลุ้น “กนง.” เคาะลดดอกเบี้ย 0.25%
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ประตัวขึ้นแรง 12 จุด จับตา “กนง.” ลดดอกเบี้ย 0.25% วันนี้ ฟากโบรกแนะลยุทธ์ “Selective Buy” พร้อมมองกรอบดัชนี 1,242-1,419 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10:00 น. อยู่ที่ 1,271.12 จุด บวก 12.05 จุด หรือ 0.96% สูงสุดที่ 1,271.73 จุด ต่ำสุดที่ 1,269.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4,161.63 ล้านบาท
ด้าน บล.ไอร่า คาดตลาด “Sideways” อาจได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการที่สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนออกไปอีก 90 วัน เพื่อขยายเวลาทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ คาดจะช่วยส่งผลให้ตลาดลดความกังวลต่อสถานการณ์ทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างในระยะสั้น
ขณะที่ นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัพรับ sentiment เชิงบวกจากฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐที่รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ตลาดมีความคาดหวังจะเห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยมากขึ้น และหนุนตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
ขณะที่วันนี้ยังรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะพิจารณากำหนดดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร และจะส่งสัญญาณไปถึงระยะต่อไปอย่างไรบ้าง โดยให้แนวต้าน 1,270 จุด แนวรับ 1,250 จุด
ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่าดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบไซด์เวย์หรือปรับตัวขึ้น หลังจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อนตลาดได้ปรับฐานเพื่อลดความร้อนแรงลงบางส่วน โดยนักลงทุนจับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% (25 bps)
ทั้งนี้ ในเชิงเทคนิค ดัชนียังคงมีแนวต้านเดิมที่ 1,270 และ 1,282 จุด หากผ่านได้มีโอกาสเข้าสู่รอบขาขึ้นใหม่ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,255 และ 1,250 จุด การพักฐานระยะสั้นไม่ควรปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว โดยมุมมองระยะสั้นประเมินแนวต้านที่ 1,280 และ 1,300 จุด หลังจากดัชนีสามารถปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,250 จุด ซึ่งคิดเป็นค่า PER 14 เท่า
โดย INVX มองว่าตลาดได้ปลดล็อกปัจจัยกดดันจากปัญหาภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แล้ว โดยแม้อัตราภาษีที่ไทยได้รับอยู่ในระดับ 19% ใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งในอาเซียน แต่ยังคงสะท้อนถึงศักยภาพการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงที่เคยกดดันตลาดคลี่คลายลง นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ดัชนี SET ปรับตัวลงแล้ว 10% ซึ่งถือว่าปรับลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก ส่งผลให้ระดับ Valuation ของ SET ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว (ต่ำกว่า -1SD) จึงยังมีโอกาสให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง
ขณะที่ในระยะกลาง คาดว่า SET มีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายในกรอบบนที่ค่า PER ระหว่าง 14-16 เท่า หรือคิดเป็นระดับดัชนี 1,242-1,419 จุด ดังนั้น การปรับฐานระยะสั้นจึงถูกมองว่าเป็นโอกาสเข้าซื้อ โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Selective Buy”