SYNEX เด้ง 2% รับครึ่งปีหลังโตต่อ ลุยสินค้าใหม่ดันยอดขาย เพิ่มโซลูชั่น-สู่บริการครบวงจร

SYNEX เด้ง 2% แย้มครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง เร่งขยายตลาด ชูกลุ่มสินค้า High Growth-High GP ยกระดับบริการสู่ Full Service Distributor เสริม AI-Cloud-Energy พร้อมสินค้าใหม่ ดันยอดขายพุ่งต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ณ เวลา 12:05 น. อยู่ที่ระดับ 11.50 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.68% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 11.50 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 11.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.93 ล้านบาท

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNEX เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลยุทธ์หลักในการดำเนินงาน เน้นการเติบโตของกลุ่มสินค้า High Growth และ High GP ในกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยเฉพาะในสินค้าที่สอดรับกับเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ๆ จะมีการยกระดับบริการสู่ Full Service Distributor ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มโซลูชั่นและบริการที่ครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ

ด้านการลงทุนใน Back-end เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อาทิ AI (Artificial Intelligence) มีการลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานองค์กร และคาดว่าจะเริ่มเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจนในปี 2569 และคลังสินค้า (Warehouse)  SYNEX เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ลงทุนในระบบ ASRS (Automated Storage and Retrieval System) System 5 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหยิบและจัดเก็บสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงจะนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ รับเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

โดยคาดว่าจะมีสินค้าใหม่เข้ามาตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2569 โดย AI เป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์ที่รองรับการประมวลผลข้อมูล AI จำนวนมาก เช่น PC, โน้ตบุ๊ก, เซิร์ฟเวอร์ และ Cloud คาดการณ์ว่าผู้ใช้งาน AI จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย

ทั้งนี้ บริษัทมีการพัฒนา Energy Solution โดยร่วมมือกับ Huawei ในการนำเสนออินเวอร์เตอร์โซลาร์เซลล์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด บริษัทให้บริการโซลูชั่นครบวงจร รวมถึงการติดตั้งสำหรับครัวเรือน โดยเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจในครึ่งปีหลังนี้ ขณะที่ในด้าน Cloud Service บริษัทมุ่งเน้นที่ AWS และมีแผนที่จะสร้างความสามารถเพิ่มเติมเพื่อให้บริการ Cloud Service ได้มากขึ้น และนำเสนอโซลูชั่นที่แตกต่าง ซึ่งธุรกิจ Cloud เป็นการลงทุนระยะยาว และยังอยู่ในช่วงการลงทุนในปีนี้

นอกจากนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนของคลังสินค้า โดยการนำระบบ ASRS และเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ลงทุนใน System 5 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยิบจับสินค้า จะช่วยให้สามารถรองรับยอดขายที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่แนวโน้มสินค้าใหม่และกระแสตอบรับจากการเปิดตัว Flagship Model “P80” ของ Huawei ได้รับการตอบรับดีมากในเรื่องความคุ้มค่าและคุณภาพกล้อง และ Honor คาดว่าหลังจากเปิดตัวสินค้าแล้วจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้น ขณะที่ Apple 17 จะเปิดตัวในเดือน ก.ย.นี้ กระแสตอบรับดีตามปกติ จึงคาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/2568 และครึ่งปีหลัง ส่วน Nintendo Switch 2 ที่เปิดตัวไปแล้วและได้รับกระแสตอบรับดีมาก บริษัทจะจัดงาน Thailand Game Show ที่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อเปิดตัวเกมใหม่พร้อมกัน โดยเฉพาะ Pokémon ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตได้ต่อเนื่อง

Back to top button