
BGRIM บวกต่อ 3% รับอานิสงส์นโยบายรัฐ-ต้นทุนก๊าซลด พ่วงบาทแข็ง โบรกเคาะเป้า 16 บ.
BGRIM บวกต่อ 3% โบรก คาดรัฐผ่อนคลายแรงกดดันต่อ ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) หนุนผลประกอบการของบริษัทฟื้นตัว ขณะที่ต้นทุนก๊าซลดและเงินบาทแข็งช่วยอัพไซด์ พร้อมรับค่าเงินบาทแข็งค่าในรอบ 4 ปี คาดกำไรโตเฉลี่ย 20% คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ณ เวลา 11:21 น. อยู่ที่ระดับ 13.90 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.96% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 14.10 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 13.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 344.43 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้นต่อ BGRIM โดยคาดการปรับเปลี่ยนรัฐบาล และคณะรัฐมนตรีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายลดแรงกดดันต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) คาดเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการฟื้นตัวสำหรับ BGRIM เนื่องจากภายใต้โครงสร้างค่าไฟปัจจุบันซึ่งยังมีภาระ AF คงค้างที่ต้องจ่าย กฟผ. (EGAT) ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/68 อยู่ที่ 66,072 ล้านบาท
นักวิเคราะห์จึงประเมินค่าไฟปี 2569-2570 ทรงตัวใกล้เคียงเดิมที่ 3.9 บาท/หน่วย และ 3.8 บาท/หน่วย ภายใต้ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจากปริมาณก๊าซของเหลวในตลาดโลกขาขึ้น และทิศทางบาทแข็งค่า ส่งผลให้คาดกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ที่ปรับตัวที่ดีขึ้นเป็น 1.29 บาท/หน่วย – 1.41 บาท/หน่วยปี 2568-2569
ทั้งนี้ ส่งผลให้ BGRIM ซึ่งมีสัดส่วนขายไฟโดยตรงให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าอุตสาหกรรม (IU) สูงที่ 25% เป็นผู้ได้ประโยชน์ โดยเริ่ม COD โครงการขนาดใหญ่อาทิ ARECO โซล่าร์ในฟิลิปปินส์ขนาด 65 MW และคาดการทำ Partial COD โครงการลม Nakwol1 ในเกาหลีใต้ขนาด 100 MW สิ้นปี 25F ได้ตามแผนเดิม
โดย บล.กรุงศี ปรับประมาณการปี 2568-2570 ของบริษัท เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 23% ส่งผลให้กำไรเติบโตเฉลี่ย 20% CAGR ภายใต้สมมติฐาน อัตรากำไรชั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 17.0-17.6% จากต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซลดลงในปี 2568-2570 ไปอยู่ที่บริเวณ 295 บาทต่อ MMBTU, 284 บาทต่อ MMBTU และ 274 บาทต่อ MMBTU ตามลำดับ บนประมาณการค่าไฟปี 22568-2570 เดิมที่ 4.02 บาท/หน่วย, 3.9 บาท/หน่วย, และ 3.8 บาท/หน่วยตามลำดับ
ในส่วนของโครงการ Data Center ขนาด 96 MW เข้ามาในประมาณการ โดยคาดเป็นส่วนแบ่งขาดทุนราว 20-30 ล้านบาท ในปี 2569 จากผลของการทยอย COD ไตรมาสละ 6 MW และกลายเป็นส่วนแบ่งกำไรเพิ่มเติมแก่ BGRIM ในปี 2571 ราว 400 ล้านบาท หลัง COD ครบโครงการ
บล.กรุงศรีปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิมถือ บนTP25F ใหม่ 16.00 บาท อิง SOTP โดยมอง BGRIM เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ซึ่งทำให้ความเสี่ยงที่เคยเป็นOverhang เดิมลดลง ขณะที่ประเด็นการปรับลดค่าไฟของ EVN ในเวียดนามถูกรวมอยู่ในประมาณการของแล้วส่งผลให้คาดมี Downside จำกัด