
บล.กรุงศรี ชี้ SET สัปดาห์นี้ “ไซด์เวย์อัพ” จับตามาตรการสร้างเสน่ห์ “ตลาดทุนไทย”
บล.กรุงศรี ประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหว “ไซด์เวย์อัพ” จับตาการแถลงมาตรการสร้างเสน่ห์ “ตลาดทุนไทย” จาก ก.ล.ต. ร่วมกับตลท.-สภาธุรกิจตลาดทุนไทย-กระทรวงการคลังวันนี้ พร้อมติดตามการประชุม FOMC วันที่ 17 ก.ย. คาดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% แนะหุ้นเด่นลงทุน CPALL, IVL และ PTTGC
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (15 ก.ย. 68 – 19 ก.ย. 68) ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินตลาดหุ้นไทย “Sideways-Up” ให้กรอบแนวรับที่ 1,279-1,268 จุด แนวต้าน 1,310-1,330 จุด โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ที่ต้องติดตามจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ อาทิ วันที่ 17 กันยายน นักลงทุนติดตามการประชุม FOMC โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 จุด สู่กรอบ 4.0–4.25%
อีกทั้ง ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคม คาดเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเดือนก่อน หลังจากเดือนก่อนเพิ่ม 0.5% ส่วนดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม คาดทรงตัวที่ 0.0% จากเดือนก่อนติดลบ 0.1%
วันที่ 15 กันยายน ติดตามรายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีนเดือนสิงหาคม ประกอบด้วย 1.) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม คาดเพิ่ม 5.6% จากปีก่อน หลังจากเดือนก่อนเพิ่ม 5.7%, 2.) ยอดค้าปลีก คาดเพิ่ม 3.8% จากปีก่อน หลังจากเดือนก่อนเพิ่ม 3.7%, 3.) การลงทุนสินทรัพย์คงทน คาดเพิ่ม 1.4% จากต้นปีถึงปัจจุบัน หลังจากเดือนก่อนเพิ่ม 1.6% และ 4.) ดัชนีราคาบ้านใหม่ คาดลด 0.3% เมื่อเทียบเดือนก่อน เท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ 18 กันยายน ติดตามการประชุม ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) โดยคาดว่าธนาคารจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5%
ด้านปัจจัยภายในประเทศที่ควรติดตาม คือ 15 กันยายน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และกระทรวงการคลัง จะร่วมกันแถลงข่าว “มาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย” ถัดไประหว่างวันที่ 15-19 กันยายน ติดตามการแต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี ชุดใหม่และ นโยบายเศรษฐกิจ คาดการณ์เน้นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภายในประเทศ โดยเฉพาะด้านการบริโภคและการท่องเที่ยว
ขณะที่ 19 กันยายน ดัชนี FTSE จะมีการ Rebalance รอบใหม่ ซึ่งมีผลราคาปิด ดังนี้ Standard Index (Large + Mid) หุ้นเข้า ไม่มี, หุ้นออก คือ BGRIM และ SAWAD
Small Cap Index หุ้นเข้า คือ BGRIM, SAWAD, หุ้นออก คือ BSRC, BEC, FORTH, PSH, THANI, SINGER, SUPER, TKN และ TQM
Micro Cap Index หุ้นเข้า คือ AXTART, BSRC, FORTH, FTREIT, MASTER, NEX, PT, PSH, THANI, SUPER, TKN และ TQM หุ้นออก คือ ADVICE, ANAN, AQUA, AGE, APCO, ASW, BLC, BR, BWG, BYD, BGC, BEYOND, BRI, BRR, CHAYO, CH, CGD, CGH, EARTH, EASTW, INSET, ILINK, KEX, LST, M-CHAI, MGC, METCO
PHG, OKJ, PREB, PCC, PF, QCON, ROCTEC, PLUS, RS, XYZ, SKN, SPRIME, SAGE, SEAOIL. SITHAI, SMT, STELLA, SUN, SGC, SYMC, TMAN, TGE, CREDIT, TOG, TSE, TPAC, THRE, THIP, PLAT, UBE, WICE, UV และ WORK
ทั้งนี้ กลยุทธ์ลงทุน ภายหลังคาดตลาด “Sideways-Up” แรงขับเคลื่อนตลาดมาทั้งภายนอกและภายในความคาดหวังลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) นอกจากนี้ ติดตามคาดการณ์ Dot Plot และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีโอกาสปรับลงทำให้เม็ดเงินยังน่าจะสลับออกจากสหรัฐฯ สู่ตลาดหุ้นที่ยัง Laggard ภายใน พร้อมกับคาดการณ์ว่า ครม. น่าจะได้รับการโปรดเกล้า
ขณะที่ ตลาดเก็งภาพกลุ่มที่ได้ผลบวกรัฐฯ เร่งใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นเด่นรายสัปดาห์จึง เน้นไปที่หุ้นอิง ดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ High Yield อสังหาฯ REITs หนี้สูง, หุ้นอิงภายใน Domestic ที่ยัง Deep Value อาทิ ค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงพยาบาล และหุ้นในธีม Anti-involution จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประชุม Politburo ต้นเดือนตุลาคม โดยสัปดาห์นี้เลือก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL คาดการณ์ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากดอกเบี้ยขาลงผสาน Upside มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ ให้ราคาพื้นฐาน 80 บาท
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ธุรกิจสหรัฐฯ อินเดียมี Upside ผสานตลาดเพิ่มความหวังมาตรการจีนให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 26 บาท อีกทั้ง แนะนำ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC จากความคาดหวังการมาตรการ Anti-involution ของจีน เปิด Upside ให้ราคาเป้าหมายที่ 34 บาท

