
ศาลยกฟ้อง “กฤษณ์ ณรงค์เดช” ไม่ผิดยักยอกทรัพย์มรดก ชี้ไร้เจตนาเบียดบัง
ศาลอาญา พิพากษายกฟ้อง "กฤษณ์ ณรงค์เดช" คดีที่ถูก "ณพ ณรงค์เดช" เป็นโจทก์ฟ้อง ข้อหายักยอกทรัพย์มรดก ระบุเหตุผล "ไร้เจตนาเบียดบังทรัพย์สิน" ในกองมรดก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายณพ ณรงค์เดช นักธุรกิจชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกฤษณ์ ณรงค์เดช (จำเลย) นักธุรกิจชื่อดัง ในคดีหมายเลขดำที่ อ.599/2567 ข้อหาความผิดฐานยักยอกทรัพย์มรดก วันนี้ (25 ก.ย. 68) ศาลอาญา รัชดาฯ ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าว โดยผลปรากฎว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง นายกฤษณ์ เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายกฤษณ์ ไม่มีเจตนาเบียดบังทรัพย์สินในกองมรดก
ภายหลังรับคำพิพากษา นายกฤษณ์ ณรงค์เดช กล่าวว่า ตามข่าวที่มีการกล่าวอ้างว่าตนเอง กระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์มรดกต่างๆนั้น ส่วนตัวตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลือกที่จะเงียบ เนื่องจากไม่อยากก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม และในวันนี้ศาลได้ตัดสินให้เป็นผู้บริสุทธิ์ มิได้เป็นไปตามคำกล่าวหาและภาพลักษณ์ที่ถูกยัดเยียดให้
จากนี้จะขอทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับธุรกิจและงานมูลนิธิฯของคุณแม่ ส่วนเรื่องคดีความต่างๆที่คุณพ่อ ดร.เกษม ณรงค์เดช ตนเอง และน้องชายกรณ์ เป็นฝ่ายโจทก์ และมีคำพิพากษาชนะในชั้นศาลแล้วนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม และกระบวนการอื่นๆของศาลต่อไป
ทางด้าน ทีมทนายของนายกฤษณ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่มาที่ไปของคดีนี้ ทางนายกฤษณ์ นายณพ และนายกรณ์ ณรงค์เดช ได้มีข้อตกลงร่วมกันให้นำเงินจากกองมรดกของคุณหญิงพรทิพย์ ในส่วนที่จะได้รับมรดกจากทางดร.ถาวร พรประภา(คุณตา) ไปช่วยซื้อที่ดินบางส่วนของบุคคลภายนอก แต่ปรากฏว่ากองมรดกในขณะนั้นยังไม่ได้รับเงินจากคุณตา ทาง 3 พี่น้องจึงปรึกษากัน
นายกฤษณ์ ในฐานะพี่ชายคนโตจึงได้ตัดสินใจนำเงินส่วนตัวออกไปเพื่อช่วยซื้อที่ดินดังกล่าวก่อน หลังจากนั้น เมื่อเงินของคุณตาเข้ามายังกองมรดก ทางนายกฤษณ์ จึงได้นำเงินในส่วนนี้มาดำเนินการตามที่ตกลงกันของผู้ได้รับปรโยชน์จากกองมรดก และนำส่วนที่เหลือจากการหักชำระหนี้มาแบ่งปันให้กับทางนายณพ และนายกรณ์ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทายาทได้รับกันไปทั้งหมดตั้งแต่ก่อนมีการฟ้องคดีนี้แล้ว
ทั้งนี้ ในการจัดการมรดกดังกล่าว นอกจากนายกฤษณ์ จะไม่ทำให้กองมรดกเสียหายแล้ว นายกฤษณ์ยังทำให้กองมรดกได้รับประโยชน์อีกด้วย เนื่องจากการขายที่ดินพิพาทดังกล่าว ทายาททุกคนได้รับเงินในส่วนของตัวเองและมีกำไรรวมกันโดยประมาณ 25 ล้านบาทอีกด้วย ศาลจึงได้พิพากษายกฟ้อง พ้นมลทินในวันนี้
ขณะที่ นายณพ กล่าวว่า คดีนี้เป็นเรื่องของการจัดการมรดก ข้อเท็จจริงในวันนี้ศาลฟังได้ว่ามีการนำเงินกองมรดกเข้าบัญชีส่วนตัวจริง แต่การตีความข้อกฎหมายศาลมองว่าผู้จัดการมรดกสามารถนำเงินไปไว้ในบัญชีของตนเองได้ ซึ่งภายหลังจากนี้ตนและทีมทนายความจะใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อไป