
JMART แจงโครงสร้างถือหุ้น “RABBIT–SINGER” ไม่ขัดหลักผลประโยชน์ทับซ้อน
JMART ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันโครงสร้างการถือหุ้นระหว่าง RABBIT และ SINGER ไม่เข้าข่ายความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เหตุแต่ละบริษัทดำเนินธุรกิจต่างลักษณะ พร้อมมีระบบกำกับดูแลและคณะกรรมการอิสระแยกจากกันชัดเจน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น
บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายหลังได้รับหนังสือสอบถามเกี่ยวกับโครงสร้างการถือหุ้นของ บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT ว่าเข้าข่ายความขัดแย้งทางผลประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนหรือไม่
JMART ระบุว่า ปัจจุบัน RABBIT ถือหุ้นใน JMART จำนวน 148.86 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.11% ของทุนชำระแล้ว และถือหุ้นใน บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER จำนวน 196.89 ล้านหุ้น สัดส่วน 23.75%
ขณะที่ JMART ถือหุ้นใน SINGER จำนวน 208.87 ล้านหุ้น สัดส่วน 25.20% ซึ่งการถือหุ้นในลักษณะนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยไม่มีผลกระทบด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์
JMART ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทั้งสามบริษัทดำเนินธุรกิจต่างลักษณะกันอย่างมีนัยสำคัญ โดย SINGER มุ่งธุรกิจจำหน่ายสินค้าและสินเชื่อเช่าซื้อ, RABBIT อยู่ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการเงิน ขณะที่ JMART เป็นโฮลดิ้ง คอมพานี ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมและเทคโนโลยีการเงิน จึงไม่มีการแข่งขันทางธุรกิจโดยตรง
ทั้งนี้ บริษัทมีมาตรการกำกับดูแลกิจการและกลไกป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างชัดเจน โดย RABBIT ไม่มีอำนาจควบคุมหรือกรรมการตัวแทนใน JMART และโครงสร้างการบริหารของแต่ละบริษัทเป็นอิสระต่อกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นทุกราย