
“พงศ์ภัทร” ชู 2 หุ้นเด่น BJC-CPAXT รับ “คนละครึ่งพลัส” กระตุ้นยอดขายปลายปี
“พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์” มองตลาดหุ้นไทยเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากกลุ่มธนาคารและพลังงาน พร้อมคาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่จะหนุน Sentiment ตลาด พร้อมชู BJC-CPAXT รับอานิสงส์ “คนละครึ่งพลัส” หนุนยอดขายช่วงท้ายปีโต
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์เอกซ์ จำกัด ในเครือกลุ่มเอสซีบีเอ็กซ์ (SCBX) เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้มีการชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ในระยะสัปดาห์ยังมีความเสี่ยงของการอ่อนตัว โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ที่เคยหลุดระดับ 1,270 จุดลงไปแตะ 1,266 จุด แม้มีแรงรีบาวด์ขึ้นมาได้บางส่วน แต่ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,300 จุดได้อย่างมั่นคง ซึ่งหากดัชนีกลับมาหลุดแนวรับ 1,270-1,266 จุดอีกครั้ง จะเพิ่มความเสี่ยงของการกลับเข้าสู่ทิศทางขาลง
สำหรับปัจจัยภายนอกตลาดยังคงต้องติดตามประเด็นความกังวลต่อระบบธนาคารในสหรัฐอเมริกา หลังมีกรณีทุจริตในบางแห่ง ซึ่งอาจสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะภาคผู้บริโภค ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐส่วนใหญ่ยังออกมาดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นตอบรับไปแล้วบางส่วน
ด้านกลุ่มธนาคารไทย มองว่าเริ่มน่าสนใจในระยะกลางถึงยาว เนื่องจากราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (P/BV) ราว 0.7 เท่า และมีอัตราปันผลเฉลี่ยกว่า 6% โดยเชื่อว่าหากผลประกอบการไตรมาส 3 ไม่อ่อนแอเกินไป จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง ขณะเดียวกันกลุ่มธนาคารบางแห่งอาจมีกำไรจากพอร์ตลงทุน เช่น กรณีหุ้นการบินไทยที่กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นมองว่ากลุ่มส่งออกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหาร เช่น GFPT และ TU ที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีขึ้นตามการฟื้นตัวของอุปสงค์โลก ขณะที่กลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้ายังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้าน Data Center และโครงการไฟฟ้า Direct Supply ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะเป็นประเด็นเก็งกำไรระยะสั้นในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ยังมองว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น CPAXT และ BJC มีโอกาสได้รับแรงหนุนจากมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” ที่เปิดลงทะเบียนวันแรกในวันนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของภาคประชาชนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ก่อนเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งต้นปีหน้า
นายพงศ์ภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดยังคาดหวังนโยบายภาครัฐเพิ่มเติมเพื่อหนุนตลาดทุน โดยเฉพาะมาตรการลดหย่อนภาษีเงินปันผลสำหรับนักลงทุนระยะยาว และการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้น หากมีการออกมาตรการดังกล่าวในช่วง 4 เดือนข้างหน้า จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยสร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้ตลาดหุ้นไทย