“โกลเบล็ก” มองทองคำเดือน พ.ย.ผันผวน จับตาท่าที “เฟด-สงครามตะวันออกกลาง”

“บล.โกลเบล็ก” ประเมินราคาทองคำเดือนพฤศจิกายนเคลื่อนไหวในกรอบ 3,820–4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถูกกดดันจากท่าทีเฟดและการคลี่คลายการค้าสหรัฐฯ–จีน แต่ยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์อิสราเอล-กาซา


นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลายด้าน โดยเฉพาะท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม หลังจากเพิ่งปรับลดไปแล้ว 0.25% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สู่ระดับ 3.75–4.00% ต่อปี

ทั้งนี้ เครื่องมือ FedWatch Tool ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.8% ต่อคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคม จากเดิมที่ให้น้ำหนัก 85.2% สะท้อนความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินที่ยังคงกดดันสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ

ขณะเดียวกัน สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลาย ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศยกเลิกมาตรการลดหย่อนภาษีทองคำ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนผู้ค้าปลีกเพิ่มขึ้นและกระทบต่อความต้องการทองคำในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกรณีอิสราเอลยังคงดำเนินการโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซา แม้มีการตกลงหยุดยิง ยังคงเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ฝ่ายวิจัยโกลเบล็กประเมินกรอบราคาทองคำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 3,820–4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายเมื่อราคาขึ้นถึงแนวต้าน ด้านโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนธันวาคม 2569 จาก 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้เหตุผลจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำในภูมิภาคตะวันตกอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงแนวโน้มการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติมของธนาคารกลางทั่วโลก

Back to top button