BTG บวกต่อ 2% รับกำไร 9 เดือนโต 281% ลุ้น Q4 ราคาหมูฟื้น โบรกเคาะเป้า 21.40 บาท

BTG บวกต่อ 2% หลังงบฟอร์มสวย! ไตรมาส 3/68 กวาดกำไรสุทธิ 1,166.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.1% หนุน 9 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 5,658.27 ล้านบาท เติบโต 281.5% โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เป้าราคา 17.30-21.40 บาท คาดแนวโน้มไตรมาส 4/68 โตต่อ รับราคาหมูเริ่มฟื้นตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 พ.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)หรือ BTG ณ เวลา 10:20 น. อยู่ที่ระดับ 17.00 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.80% สูงสุดที่ระดับ 17.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55.13 ล้านบาท

นางสาวดุลยา พวงทอง ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารการเงิน บมจ. เบทาโกร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,166.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 979.44 ล้านบาท และมีรายได้รวม 30,746.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 30,136.4 ล้านบาท

โดยหลักมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจอาหารประเทศไทย ได้แก่ สินค้าประเภทหมู ไก่ และไข่ รวมถึงปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจเกษตรและธุรกิจสัตว์เลี้ยง ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มกําลังการผลิตของบริษัท เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ราคาขายปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3/2568 โดยเฉพาะราคาหมูในประเทศ โดยหลักเป็นผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราว จากความต้องการบริโภคที่ลดลงในช่วงฤดูฝน และปัญหาขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีแนวโน้มดีขึ้นชัดเจนและคาดว่าจะคลี่คลายในไตรมาส 4/2568

ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5,658.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 281.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,483.17 ล้านบาท และมีรายได้รวม 92,821.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 84,659.7 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ธุรกิจ และบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BTG ราคาพื้นฐาน 17.30 บาทต่อหุ้น โดยมองว่าราคาหมูได้ผ่านจุดต่ำสุดในเดือนกันยายนไปแล้ว และเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก 1.นโยบายช่วยพยุงราคาหมูจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกร, 2.ปัญหาขาดแคลนแรงงานคลี่คลายลง และ 3.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐหนุนกำลังซื้อภายในประเทศ โดยคาดผลการดําเนินงานในไตรมาส 4/2568 จะเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้น BTG คงราคาเป้าหมายปี 2569 ไว้ที่ 21.40 บาทต่อหุ้น อิงอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 9 เท่า ด้วยราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมา ทำให้เริ่มเห็นมี Upside และแนวโน้มสถานการณ์สัตว์บกที่เริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดแนวโน้มกำไรของ BTG ในไตรมาส 4/2568 อาจเห็นการฟื้นตัวได้บ้างทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาหมูหน้าฟาร์มที่ลดลงไปต่ำสุดในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ราว 53-54 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ 63-64 บาทต่อกิโลกรัม สะท้อนอุปสงค์ที่กลับมาหลังเทศกาลกินเจ และปัญหาการขาดแคลนแรงงานเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บวกกับมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของทางภาครัฐมาช่วยหนุน ด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์คาดยังปรับตัวลงอยู่ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยเฉพาะข้าวโพด

นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังประเมินปี 2569 คาดว่าจะเห็นแนวโน้มราคาสัตว์บกปรับตัวดีขึ้นได้ จากมาตรการลดอุปทานในระบบของสมาคมผู้เลี้ยงสุกร และการฟื้นตัวของอุปสงค์ รวมถึงอาจได้แรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐด้วย แต่ด้วยราคาสัตว์บกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ค่อนข้างสูง ทำให้มองว่าราคาเฉลี่ยในปี 2569 อาจไม่สูงเท่า จึงคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,686 ล้านบาท ลดลงราว 32% จากปี 2568 ที่คาดมีกำไรสุทธิ 6,923 ล้านบาท

Back to top button