TOA พลิกเกมไตรมาส 3 กวาดรายได้ 5.30 พันลบ. มั่นใจ Q4 โตต่อเนื่อง

TOA รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ทำรายได้ 5,304 ล้านบาท เติบโต 3.5% จากยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ คาดไตรมาส 4 โตต่อเนื่อง รับแรงหนุนจากดีมานด์ก่อสร้างปลายปี พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสีใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสีทาบ้าน


นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เปิด เผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 9 เดือนแรกปี 2568 อยู่ที่ 16,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการปรับตัวและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอน การเติบโตของยอดขายจากตลาดต่างประเทศ ทั้งในกลุ่มประเทศ AEC เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันให้รายได้รวมของเราเติบโตสวนกระแสได้อย่างน่าประทับใจ

โดยอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 พุ่งขึ้นเป็น 37.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2567 และมีอัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนปีแรก 2568 เท่ากับ 37.7% ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯ ได้เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดหาวัตถุดิบ การปรับปรุงเครื่องจักร และการนำระบบ automation มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 เติบโต 266% เป็นเงิน 688 ล้านบาท และสำหรับงวด 9 เดือนปีแรก 2568 เพิ่มขึ้น 41% เป็นเงิน 2,073 ล้านบาท จากรายได้รวมและกำไรขั้นต้นที่พุ่งสูงขึ้น

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2568 บริษัทฯ คาดว่ายังคงสดใสต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตนี้ไว้ได้ จากปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้สินค้าภายในประเทศที่ยังคงเติบโต เพราะเป็นช่วงไฮซีซันที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สีและวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับกลยุทธ์สำคัญด้วยการนำเสนอสินค้าแบบ Total Solution พร้อมกับการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค อาทิ นวัตกรรมสีทับหน้ารวมรองพื้น สูตร 2IN1 เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ใช้งาน

ล่าสุดกับแคมเปญสื่อสารการตลาดชุดใหม่ที่สร้างกระแส ‘เรื่องบ้านข้ออ้างไม่มี – No More Excuse’ ด้วยแนวคิดที่สะท้อนอินไซต์ของผู้บริโภค ผ่านหนังโฆษณาวันสิ้นโลก จนกลายเป็นไวรัลดัง ทำยอดวิวทะลุ 4 ล้านวิว รวมทุกช่องทางภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว เพื่อกระตุ้นเตือนผู้บริโภคว่าเรื่องของบ้านเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกมองข้าม โดยมีการสื่อสารครอบคลุมทุกช่องทาง (Digital OOH, Transit, BTS Wrap, Social Media และ Mass Media)

ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ ผนวกกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเติบโตของรายได้จากตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดว่าจะเริ่มมีผลบวกต่อตลาด จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสทางการขาย สร้างการรับรู้ของแบรนด์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดสีอันดับหนึ่งอย่างยั่งยืน

“ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการเป็นองค์กรชั้นนำด้านการพัฒนาความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emission) ซึ่งการผสานรวมกันของผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ฐานะการเงินที่มั่นคง และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการก้าวผ่านความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ และมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายจตุภัทร์ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button