
“โกลเบล็ก” ชี้เศรษฐกิจสหรัฐสั่นคลอน กดทองคำแกว่ง 4,000-4,150 เหรียญต่อออนซ์
บล.โกลเบล็ก (GBS) ชี้ราคาทองผันผวน จากนักลงทุนลดคาดหวังปรับลดดอกเบี้ยเฟด-แรงขายทำกำไร หลังสหรัฐฯ ยุติชัตดาวน์ แต่ยังจับตาหนี้สาธารณะและความไม่แน่นอนการเมือง หนุนทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย คาดกรอบ 4,000–4,150 ดอลลาร์/ออนซ์
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนปรับลดความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงความลังเลต่อการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. หลังทำเนียบขาวระบุว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ส่งผลให้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานประจำเดือน ต.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด
“เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้แสดงความลังเลที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานค่อนข้างมีเสถียรภาพหลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งท่าทีดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือน ธ.ค.”
ประกอบกับการยุติสถานการณ์ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะทำให้สหรัฐฯ เผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะเพิ่มสูงยิ่งขึ้น และอาจเผชิญภาวะชัตดาวน์ครั้งใหม่ในเวลาอีกสองเดือนข้างหน้า เนื่องจากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ที่ยังคงรุนแรง ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของการชัตดาวน์ในอนาคต ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกถือครอง ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 4,000 – 4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสนี้ในการ เก็งกำไรภายในกรอบดังกล่าว เพื่อสร้างผลตอบแทนจากความผันผวนที่เกิดขึ้น

