เทียบฟอร์ม SONIC – LEO หุ้นจิ๋ว “โลจิสติกส์” ตัวท็อป! ผลงานโต อัพไซด์แรง

เทียบฟอร์ม SONIC – LEO หุ้นจิ๋ว “โลจิสติกส์” ตัวท็อป! ผลงานโต อัพไซด์แรง


จากกรณี Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB คาดการณ์แนวโน้มการส่งออกไทยปี 2564 จะกลับมาขยายตัวได้ที่ประมาณ 4-5% จากคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF  พบว่าประเทศสำคัญส่วนใหญ่จะมีการขยายตัวในปี 2564 ที่น้อยกว่าการหดตัวในปี 2563 มีเพียงแค่จีนและประเทศกลุ่มอาเซียนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่า

ทั้งนี้ สะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าไทยส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ และหากพิจารณาด้านปริมาณการค้าโลก WTO ที่คาดว่าปริมาณการค้าโลกในปี 2564 จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนจากอัตราเติบโตปี 2564 ที่ต่ำกว่าอัตราหดตัวของปีนี้ ด้วยเหตุนี้ EIC จึงคาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2564 จะกลับมาขยายตัวได้แต่จะเป็นการขยายตัวในระดับไม่สูงนักที่ประมาณ 4-5%

ส่วนการส่งออกรายตลาด พบว่าการส่งออกไปสหรัฐฯ จีน และออสเตรเลียขยายตัว ขณะที่การส่งออกไปตลาดสำคัญอื่นมีการหดตัวในอัตราที่น้อยลง

ดังนั้นเพื่อให้นักลงทุนได้มีข้อมูลประกอบการลงทุน ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมข้อมูลบทวิเคราะห์กลุ่มหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์  เนื่องจากเป็น 1 ในกลุ่มหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ มูลค่าการส่งออกและนำเข้า และการขยายตัวของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สนับสนุนการเติบโต

โดยหุ้นที่มีความน่าสนใจในการเข้าในวันนี้เป็นหุ้นเล็กในตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 2 หลักทรัพย์ ประกอบด้วยหุ้น บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC และหุ้นบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ทำการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำเสนอแก่นักลงลงทุนทั้งในด้านของ Market Capitalization หรือ มูลค่าตามราคาตลาด, P/E หรือ อัตราส่วนทางการเงินที่เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง ราคาหุ้นต่อหุ้น (Price) เทียบกับ กำไรต่อหุ้น (EPS) รวมถึงราคาเป้าหมาย และส่วนต่างราคาหุ้น (Upside) ดังนี้

บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ คาดแนวโน้มรายได้รวม ของ SONIC จะเติบโตสู่ 1,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน เติบโตตามภาคการส่งออกที่เห็นทิศทางการฟื้นตัวหลังผ่านพ้นช่วง Lockdown ประกอบกับทั่วโลกเริ่มฉีดวัคซีนส่งผลให้สถานการณ์ COVID-19 บรรเทาลง ทั้งนี้ ประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 64 ราว 0.12 บาท/หุ้น คำนวณได้ราคาเหมาะสมที่ 2.46 บาท ซึ่งมี Upside จากราคาปัจจุบัน จึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”

ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/63 ของ SONIC เติบโต 45% จากไตรมาสก่อน, เติบโต 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงสุดในรอบกว่า 4 ปี จากค่าระวางเรือและสายการบินที่พุ่งสูงขึ้น และคาดกำไรทั้งปี 2563 เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ทั้งที่ถูกกระทบหนักจาก COVID-19 พร้อมคาดกำไรปี 2564-65 โตเฉลี่ย 16% CAGR สูงกว่า 4 ปีที่ผ่านมาที่โต 2% CAGR จากการฟื้นตัวของการค้าในอาเซียนและการเติบโตของ E-Commerce ประเมินราคาเป้าหมาย 2.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

ส่วนทาง LEO มีนักวิเคราะห์ บล. เคทีบีเอสที ระบุปรับราคาเป้าหมายปี 2564 ขึ้นเป็น 7.30 บาท จากการปรับกำไรปี 2564 ขึ้น 8% เป็น 94 ล้านบาท (โต 39% จากปีก่อน) เนื่องจากมีมุมมองว่าปริมาณการขนส่งและค่าขนส่งที่ยังอยู่ในระดับสูงจะช่วยผลักดันให้ปี 2564 เป็นปีที่บริษัทจะยังเติบโตโดดเด่น จากปริมาณการขนส่งที่อยู่ในระดับสูงยาวไปจนถึงตรุษจีนและสงกรานต์

อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกหุ้นดังกล่าว เป็นเพียงตัวเลือกเพื่อให้นักลงทุนนำไปประกอบการตัดสินใจเข้าลงทุน เนื่องจากการสำรวจข้อมูลในปัจจุบันพบว่ามีการเทขายหุ้นขนาดใหญ่และเข้าซื้อหุ้นขนาดเล็กมากขึ้น ทีมข่าวเลยได้คัดเลือกหุ้นขนาดเล็กที่มีความน่าสนใจเพื่อประกอบการพิจารณาลงทุนของนักลงทุน

Back to top button