คัด 4 หุ้นโรงพยาบาลตัวท็อป! ลุ้นกำไร Q2 โตแรง โบรกฯเชียร์ซื้อ ชู BDMS ราคา laggard

คัด 4 หุ้นโรงพยาบาลตัวท็อป! ลุ้นกำไร Q2 โตแรง โบรกฯเชียร์ซื้อ ชู BDMS ราคา laggard ยังไม่สะท้อนการฟื้นตัวของผลงานครึ่งปีหลัง-ปี 2565


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลกลุ่มหุ้นโรงพยาบาลมานำเสนอหลังจากประกาศงบไตรมาส 1/2564 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 และปีนี้จะเติบโตโดดเด่นและต่อเนื่อง ดังนั้นทางจึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลและแนวโน้มผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาลมานำเสนอ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักลงทุน โดยครั้งนี้ได้สำรวจข้อมูลจากบล.โนมูระ พัฒนสิน ซึ่งระบุในบทวิเคราะห์ดังนี้

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงแนะนำ Bullish สำหรับกลุ่มการแพทย์ โดยในไตรมาส 2/2564 คาดว่าโรงพยาบาลที่ศึกษาส่วนใหญ่จะมีสัดส่วนรายได้เสริมจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2564 โดยเฉพาะ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH คาดว่าจะมีผลบวกจากยอดตรวจ โควิด-19 เร่งขึ้นกว่า 4 เท่าตัวจากไตรมาส 1/2564

รองมาเป็น บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน)  หรือ CHG มียอดตรวจโควิด-19 เพิ่มกว่า 3 เท่า และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)  หรือ BDMS มียอดตรวจโคกว่า 1 เท่าตัว ประกอบกับมีรายได้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งที่โรงพยาบาล และ Hospitel (อัตราครองเตียงเฉลี่ยกว่า 50% ของ จำนวนเตียง Hospitel)

อย่างไรก็ตามคาดว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จะมีสัดส่วนรายได้เสริมโควิด-19 จาก AHQ และ ASQ มีสัดส่วนลดลงจากไตรมาส 1/2564 ซึ่งเป็นผลของการประกาศให้สถานพยาบาลชะลอการรับรักษาลูกค้าต่างชาติ

แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 คาดว่ากลุ่ม โรงพยาบาลที่ศึกษาจะมีกำไรปกติรวม (+109% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน -2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เติบโตสูง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากกำไรปกติรวมฐานต่ำ แต่ลดลงเล็กน้อย เทียบไตรมาสก่อนหน้า

ภาพรวมกำไรปกติไตรมาส 2/2564 คาดเติบโตสูง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคาดว่าผลการดำเนินงาน BDMS (+186% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน -2%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และ BH (+81% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน-11%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ดีขึ้นมากตามทิศทางรายได้กลับมาเติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการใช้บริการของลูกค้าในประเทศและมีตัว ช่วยรายได้เสริม โควิด-19 สูงกว่าไตรมาส 2/2563

ประกอบกับ BDMS และ BH มีฐานกำไรปกติไตรมาส 2/2563 ต่ำกว่ามากจากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 ระลอกแรก ทั้งนี้เทียบไตรมาสก่อนหน้าคาดกำไรปกติรวมอ่อนตัวลง เนื่องจากคาดว่าต้นทุนและค่าใช้จ่ายของหลาย โรงพยาบาล เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 1/2564  อย่างไรก็ตาม คาดว่า BCH จะมีกำไรปกติเติบโตทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า ดีกว่ากลุ่ม ส่วน BDMS คาดกำไรเติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเด่นสุด

โดยลองประเมินรายได้เสริมจากบริการวัคซีนทางเลือกของ 5 โรงพยาบาลที่ศึกษา โดยใช้สมมติฐาน 1.) ยอดผู้ฉีดวัคซีน 10% ของ ผู้ใช้บริการ OPD แต่ละ โรงพยาบาล 2.) อัตราค่าบริการฉีด 3,000 บาท/ผู้รับวัคซีน 3.) %margin เฉลี่ย 30% คาดว่า THG จะมีสัดส่วนรายได้ บริการวัคซีนทางเลือกราว 18% ของรายได้ปี 2564 มากสุดในกลุ่ม โรงพยาบาล ที่ศึกษา และช่วยพลิกฟื้นผลการดำาเนินงานปี 2564 เป็นกำไรได้ รองมาเป็น CHG คาดมีสัดส่วนรายได้ราว 5% และ BCH คาดมีสัดส่วนรายได้ราว 4% ส่วน BDMS คาดมีสัดส่วนรายได้ราว 3% และ BH คาดมีสัดส่วนรายได้ราว 1%

ทั้งนี้คงแนะนำ Bullish กลุ่มการแพทย์ เนื่องจากคาดว่าปี 2564 จะมีกำไรปกติรวม (+10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) กลับมาเติบโตจากปี 2563 และปี 2565 คาดกำไรปกติรวม (+35% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เติบโตสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของ BDMS และ BH ส่วน BCH, CHG คาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง

ขณะที่ THG คาดฟื้น ตัวเป็นกำไรในปี 2565 ทั้งนี้มองว่าปัจจุบันราคาหุ้นโรงพยาบาล ถูก re-rated PE ขึ้นตามการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานไปบ้างแล้ว โดยกลุ่ม โรงพยาบาลที่ศึกษาซื้อขาย PE ปี 2565 เฉลี่ย 40 เท่า ซึ่ง BH ซื้อขาย PE ปี 2565  ที่ 55 เท่า (เทียบกับ +2.0SD PE 5 ปี) สูงกว่ากลุ่มฯ ขณะที่ BDMS ซื้อขาย PE ปี 2565 ที่ 38 เท่า (เทียบเท่าค่าเฉลี่ย PE 5 ปี) ส่วน BCH และ CHG ซื้อขาย PE ปี 2565 เฉลี่ย 33-34 เท่า ใกล้เคียง -0.5SD PE 5 ปี

นอกจากนีมองว่าหุ้น BCH และ CHG ปรับขึ้น outperform กลุ่มฯ และสูงกว่า Pre-โควิด-19 สะท้อนการเติบโตของกำไรและมีตัวช่วยสัดส่วนรายได้เสริมโควิด-19  สูง ทำให้ปรับคำแนะนำ BCH เป็น Neutral (เดิม Buy) และคงค าแนะนำ Neutral สำหรับ CHG ส่วน THG ยังไม่มีคำแนะนำเนื่องจากอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการใหม่

สำหรับหุ้นเด่นเลือก BDMS (TP22F 27 บาท) เนื่องจากราคาหุ้น BDMS ปรับตัว laggard และยังไม่สะท้อนการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2564 และปี 2565

ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button