
SAPPE วางเกมรุกครึ่งหลังปี 68 เพิ่มไลน์ผลิต-บุกตลาดใหม่ มั่นใจยอดขายฟื้น
SAPPE ชี้ผลการดำเนินงาน Q1/68 ผ่านจุดต่ำสุดของปีแล้ว แย้มส่งสัญญาณเริ่มฟื้นครึ่งปีหลัง เดินหน้าปล่อยสินค้าใหม่-บุกตลาดใหม่ พร้อมเปิดไลน์ผลิตเพิ่ม 2 ไลน์ในปีหน้า รองรับดีมานด์ระยะยาว
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจระหว่างการนำเสนอข้อมูลในงาน Opportunity Day ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้อาจไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 5% เนื่องจากได้รับแรงกดดันสูงจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดคิดหลายด้าน ทำให้บริษัทอาจไม่สามารถให้เป้าหมายการเติบโตชัดเจนได้ในปีนี้ และมีโอกาสที่รายได้รวมอาจติดลบราว 10-20%
“อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเป็นช่วงจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3 ซึ่งบริษัทได้วางแผนเชิงรุกในหลายตลาด พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ จับกลุ่มผู้บริโภคใหม่มากขึ้น” นางสาวปิยจิต กล่าว
นางสาวปิยจิต กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง บริษัทจะโฟกัสไปที่ “ผู้บริโภค” (Consumer), การเจาะลึก “ข้อมูลเชิงลึก” (Insight) และ “ลงมือปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ” (Execution) เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และแข่งขันในตลาดที่ไม่แน่นอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มปรากฏ โดยเฉพาะในตลาดยุโรป เช่น สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ที่เคยประสบปัญหาสินค้าคงคลังล้น (Stock Lever House) ปัจจุบันเริ่มคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการในต่างประเทศ ช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคใหม่หรือตลาดที่ยังไม่เคยเข้าถึงมาก่อน
นอกจากนี้นางสาวปิยจิต กล่าวอีกว่า ด้านความเสี่ยง บริษัทให้ความสำคัญกับการติดตามผลกระทบจากสงครามการค้า (Trade War) และมาตรการภาษีศุลกากร (Tariffs) ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งฐานการผลิตในท้องถิ่น (Local Production) เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้ง บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของการเข้าลงทุนหรือซื้อหุ้นกิจการอื่นเพิ่มเติม รวมถึงยังให้ความสนใจตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่ต้องหาพันธมิตรที่เหมาะสมก่อน
“ตลาดค่อนข้างผันผวน คิดว่านักลงทุนเองก็ต้องศึกษาข้อมูลดี ๆ ทุกบริษัทมีขึ้นมีลง เซ็ปเป้เราก็ยังมุ่งมั่นในการที่จะฝ่าฟันทุกอุปสรรคในทุก ๆ ที่ไปให้ได้ และไม่ได้กลัวอะไรเท่าไหร่ค่ะ” นางสาวปิยจิต กล่าว
ด้านนายอเนก ลาภสุขสถิต ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) บมจ.เซ็ปเป้ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2569 จะเปิดสายการผลิตใหม่ 2 ไลน์ เพิ่มกำลังผลิต 25-30% และในปี 2570 จะเพิ่มอีก 20-25% ส่งผลให้กำลังผลิตโดยรวมเติบโตเป็นเท่าตัวในช่วง 2 ปีข้างหน้า รองรับความต้องการในตลาดใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 1,183 ล้านบาท ลดลง 37.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,904 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายหลักอยู่ที่ 1,142 ล้านบาท ลดลง 37.8% รายได้ในประเทศ อยู่ที่ 396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ต่างประเทศ อยู่ที่ 747 ล้านบาท ลดลง 51.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 224 ล้านบาท ลดลง 36.4% จากปีก่อนที่มีกำไร 352 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้จะปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่บริษัทสามารถรักษา อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ได้ที่ระดับ 46.4% เทียบเท่าปีก่อนหน้า ด้วยการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการได้อานิสงส์จากราคาวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง และโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน เช่น การใช้ ระบบ Automation, Solar Rooftop และ Machine Learning ในกระบวนการผลิต
ขณะเดียวกัน สัดส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายอยู่ที่ 54% ทรงตัวจากปีก่อน แสดงให้เห็นถึงวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่ง แม้เผชิญภาวะยอดขายลดลง
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) อยู่ที่ 25.3% ต่อรายได้จากการขาย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 25.5% สะท้อนการควบคุมงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ