ต้องดู! รวมหุ้นกำไร Q1 สูงปรี๊ดกูรูเชียร์ “ซื้อ” ชี้อนาคตสดใส

ต้องดู! รวมหุ้นกำไรสูงปรี๊ด! กำไร Q1/59 โตเกิน 200% สวนภาวะเศรษฐกิจถดถอย


ต้องดู! รวมหุ้นกำไรสูงปรี๊ดกำไร Q1/59 โตเกิน 200% สวนภาวะเศรษฐกิจถดถอย กูรูประสานเสียงเชียร์ “ซื้อมองอนาคตธุรกิจสดใส ยอดขายทะลัก

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาด mai โดยใช้เกณฑ์คัดเลือก บจ. ที่ผลประกอบการไตรมาส 1/59 (สิ้นสุด 31 มี.ค.59) ที่มีกำไรเติบโตเกิน 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามี 12 บริษัทที่มีความน่าสนใจดังนี้

 

อันดับ 1 บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 4,104.46 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.81 บาท เพิ่มขึ้น 900% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 410.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นตามธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์สร้างผลกำไรสูงอีกทั้งมีกำไรจากรายการพิเศษจำนวน 3.3 พันลบ.โดยส่วนใหญ่เกิดจากกำไรจากการต่อรองราคาจการเข้าซื้อกิจการ BP ในรัฐอลาบาม่า

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ”หุ้น IVL ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท คาดในไตรมาส 2/59 ปริมาณขายเติบโต 70% ด้วย EBITDA Margin ที่เพิ่มสูงขึ้นจากสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและการควบรวมกิจการที่อยู่นอกเอเซีย

 

อันดับ 2 บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 57.83 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.118 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 810% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.35 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.026 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้ขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

นายบุญ ชุนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ CHEWA เปิดเผยว่า ในปี 59 ถือเป็นการเติบโต การพัฒนาของบริษัทฯ ครั้งสำคัญ เนื่องจากได้ปรับแผนการดำเนินงานด้านการตลาดให้กับกลุ่มลูกค้ามาตั้งแต่ปี 58

 

อันดับ 3 บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 79.04 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.02 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 669% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.28 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.003 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการขายลดลง

ดร.อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AJD เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่น หลังรายได้จากการขยายไลน์ธุรกิจในกลุ่มตู้เติมเงินออนไลน์ รวมถึงธุรกิจเดิม Set Top Box และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ต้นทุนยังลดลงต่อเนื่อง

 

อันดับ 4 บริษัท บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 76.10 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.07 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 614% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.65 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.01 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการขายและค่าการตลาดเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ SUSCO เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จะอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.9 หมื่นล้านบาท ในส่วนของยอดขายปีนี้คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ราว 1 พันล้านลิตร หรือเติบโต 8-10% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

 

อันดับ 5 บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 มีกำไรสุทธิ 17.52 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.022 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 565% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.64ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.004 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์โครงการริชพาร์ค@เจ้าพระยา

บล.แอพเพิล เวลธ์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น RICHY ราคาเหมาะสมปี 59 อยู่ที่ 1.60-2.00 บาท โดยฝ่ายวิจัยได้ประเมินมูลค่าอิง Prospective P/E ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 8-10 เท่า

 

อันดับ 6 บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 75.47 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0121 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 397% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.15 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0024 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น โดยมาจากได้เข้าร่วมโครงการของ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ ADVANC ซึ่งจัดโครงการให้กับลูกค้าของเอไอเอส สามารถนำมือถือเก่าในระบบ 2G มาแลกเป็นมือถือใหม่ในระบบ 3G

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ “เก็งกำไร” TWZ ราคาเป้าหมาย 0.36 บาท พร้อมย้ำเป้าปี 59 รายได้ทะยาน 10-15% จากปีก่อน ด้านโบรกเกอร์ ชี้อนาคตเปลี่ยนเป็นยุค 4G หนุนยอดขายมือถือสนั่น

 

อันดับ 7 บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 24.93 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.03 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 385% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.14 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.10 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นเกือบ 100%

บล. โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ “ซื้อ”  TVT ราคาเป้าหมาย 3 บาท และยังเลือกเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่ม Media ในขณะนี้ เนื่องจากผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นและยังมีประเด็นบวกจากการปิดดีล M&A ภายใน 2Q16 ที่จะหนุนกำไรเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

 

อันดับ 8 บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย)มีกำไรสุทธิ 11.87 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.005 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 379% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.70 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.001 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจาก บริษัทมีกำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นแม้ว่าจะมีรายได้จากการขายและบริการลดลง โดยบริษัทได้มีการบริหารด้านการสั่งซื้อสินค้าและติดตามราคาเหล็กอย่างใกล้ชิด

 

อันดับ 9 บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 รวมบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 121.86 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 223% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.68 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.02 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจาก บริษัทมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น LOXLEY ปรับราคาพื้นฐานปี 59 เป็น 3.34 บาทแม้ธุรกิจประมูลอาจมีความเสี่ยงจากความล่าช้าในการประมูลงาน แต่แนวโน้มการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่โดดเด่น อีกทั้งแผนการลงทุนใหม่ ๆ จากภาครัฐอีกด้วย

 

อันดับ 10 บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 รวมบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 27.06 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.06 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 218% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.50 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.02 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น และมีรายได้พิเศษเข้ามา ขณะที่ต้นทุนขายและบริการลดลง 

 

อันดับ 11 บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 59 มีกำไรสุทธิ 160.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 213% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 51.31 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.05 บาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้อัตราส่วนยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้จากการขายลดลงรวมถึงบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามงบประมาณที่กำหนดไว้

บล.เคทีบี แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TKN ราคาเป้าหมาย 17.20 บาท มองเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูงโดยเฉพาะในปี 59 และ 60 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 40% ต่อปีจากการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน นอกจากนี้ TKN ยังมีงบการเงินที่แข็งแกร่ง

 

อันดับ 12 บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 291.37 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 1.55 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 211% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 93.41 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มอีกทั้งต้นทุนขายปรับตัวลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริการปรับลดลง

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น OISHI ปรับราคาพื้นฐานปี 59 เป็น 103 บาท หลังคาดว่าการดำเนินงานยังเติบโตแข็งแกร่งโดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่ม

 

*ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่า นั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button