9 หุ้นกำไรสุดเฟี้ยว โตเกิน 10 เท่าตัวยิ้มรับยอดขายเพิ่ม-ควบคุมค่าใช้จ่ายดี

ดูกันชัดๆ 9 หุ้นกำไร Q1/59 สุดเฟี้ยว โตแรงเกิน 10 เท่าตัว รับแรงหนุนจากยอดขายเพิ่ม-ควบคุมค่าใช้จ่ายดี


ดูกันชัดๆ 9 หุ้นกำไร Q1/59 สุดเฟี้ยว โตแรงเกิน 10 เท่าตัว รับแรงหนุนจากยอดขายเพิ่ม-ควบคุมค่าใช้จ่ายดี

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/59 (สิ้นสุด 31 มี.ค.59) โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจาก บจ. ที่มีกำไรโตเกิน 1,000% หรือเกิน 10 เท่าตัว จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งคัดเลือกมาทั้งหมด 9 บจ.ดังนี้

 กำไรเพิ่ม10เท่าตัว20160601

 

อันดับที่ 1 บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 58.71 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.01076 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1,174,180% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.005 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.00 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายคงที่ในส่วนของโรงงานที่มีการผลิตไม่เต็มกำลังการผลิต เช่น ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ส่งผลให้ต้นทุนขายลดลง

 

อันดับที่ 2 บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 255.82 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.23 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 266,376% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.096 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0001 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากกำไรจากการขายเงินลงทุน Property funds/REIT จำนวน 88 ล้านบาท และกำไรที่รับรู้เพิ่มเติมจากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้ Property Funds/REIT จำนวน 259 ล้านบาท

 

อันดับที่ 3 บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 35.38 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0544 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 55,183% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.064 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0001 บาทต่อหุ้น

โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้ในช่องทางการตลาดแบบตรงเพิ่มขึ้น 223 ล้านบาท ผลจากระบบการออกอากาศและการจัดลำดับ ช่องสถานีดิจิตอลจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) เริ่มลงตัวทำให้การจำหน่ายสินค้าทางทีวีได้เพิ่มมากขึ้น และการขยายตัวของการขายสินค้าช่อง Online และรายได้ในช่องทางการตลาดทั่วไป (ร้านค้า) เพิ่มขึ้น 29 ล้านบาท จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายในทุกร้านค้าทั่วประเทศ

 

อันดับที่ 4 บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 40.16 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 11,119% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.36 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.00 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาสดังกล่าวเนื่องจาก ยอดขายในกลุ่มลูกค้าปลีกของธุรกิจการจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง

 

อันดับที่ 5 บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ PRIN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 รวมบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 43.46 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 5,213% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.82 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.00 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้อสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ขณะที่อันดับที่ 6 ถึง 9 ดังตารางข้างบน คือ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง  จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH, บริษัท พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PE, บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO และบริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC

 

ทั้งนี้ บจ. ที่กล่าวข้างต้นนั้น ส่วนใหญ่มียอดขายและรายได้เพิ่ม รวมทั้งมีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี เป็นแรงหนุนที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัว แม้จะอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม มีบางบริษัทที่กำไรเติบโตขึ้นจากบันทึกกำไรพิเศษในรายการอื่นที่นอกเหนือจากผลการดำเนินงานปกติ หรือมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน นักลงทุนควรศึกษาพื้นฐานของตัวบริษัทก่อนเข้าลงทุน

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button