“รถไฟฯ” เปิดยอดผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ 3.3 แสนคน ลดฮวบ 66.72% เหตุยกเลิก-คืนตั๋ว ผวาโควิด

“การรถไฟแห่งประเทศไทย” เปิดยอดผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ 3.3 แสนคน ลดฮวบ 66.72% เหตุยกเลิก-คืนตั๋ว ผวาโควิด


นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 9 – 18 เมษายน 2564 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยได้ดำเนินการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติ พร้อมจัดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่ม จำนวน 15 ขบวน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 100,000 คนต่อวัน

ทั้งนี้ การเดินทางในช่วงดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถให้บริการรับส่งประชาชนทุกคนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 332,790 คน คิดเป็น 33.28% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีผู้โดยสารลดลง 66.72%

แบ่งออกเป็น ขบวนรถเที่ยวไป 167,476 คน ขบวนรถเที่ยวกลับ 160,714 คน และขบวนรถเสริมอีก 4,600 คน ขณะที่แชมป์เดินทางสูงสุด คือ สายใต้ 116,594 คน รองลงมาเป็น สายตะวันออกเฉียงเหนือ 106,179 คน สายเหนือ 67,053 คน สายตะวันออก 31,016 คน และสายแม่กลอง 11,948 คน

โดยภาพรวมของการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2564 ของการรถไฟฯ มีผู้ใช้บริการน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้โดยสารที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์ดังกล่าวยกเลิกการเดินทางและคืนตั๋วโดยสาร จำนวน 30,201 ที่นั่ง คิดเป็น 18% ของขบวนรถที่มีการสำรองที่นั่งในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 18 เมษายน 2564

นายเอกรัช กล่าวต่อว่าในส่วนของมาตรการทางด้านสาธารณสุข การรถไฟฯ ได้ดำเนินการกวดขัน กำชับให้ทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในขบวนรถโดยสาร อาคารสถานี ชานชาลา ที่พักผู้โดยสาร ห้องสุขา และพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานี ตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ขั้นสูงสุดเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร ขณะเดียวกันในช่วงตลอดเทศกาล ยังได้ตั้งชุดเฉพาะกิจทำหน้าที่ตรวจร่วมดูแลผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟ บริเวณสถานีสำคัญๆ และบนขบวนรถทั่วทุกภูมิภาค พร้อมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจรถจักรรถพ่วงตามเขตแขวงต่างๆ และสถานีสำคัญๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อสร้างความอุ่นใจและความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ

ที่มาภาพ : เพจ “ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย”

Back to top button