“ภูมิธรรม” ย้ำชัด! “รัฐบาล-กองทัพ” มีเอกภาพแก้ปัญหาชายแดน ไม่ปิดด่านหวั่นกระทบเศรษฐกิจ

รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ยืนยันรัฐบาลและกองทัพ มีเอกภาพเดินหน้าแก้ข้อพิพาท “ไทย-กัมพูชา” ผ่านกลไก JBC พร้อมย้ำไม่ปิดด่านการค้าชายแดน หวั่นกระทบเศรษฐกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18:03 น. วันนี้ (2 มิ.ย.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Phumtham Wechayachai” ยืนยันความเป็นเอกภาพระหว่างรัฐบาลและกองทัพในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

นายภูมิธรรม ระบุว่า ตามที่มีข่าวกระจายในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหารในเรื่องการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะประเด็นการปิดด่านชายแดน ตนขอยืนยันว่าได้หารือร่วมกับกองทัพหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่า สถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ

เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุ

นายภูมิธรรม ยังระบุถึงการไม่ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่า รัฐบาลเห็นว่า ท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศยังสามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านไม่ใช่การสู้รบทางตรง แต่จะกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนและทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย

อย่างไรก็ตาม กองทัพยืนยันความระมัดระวังในการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ และเพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย

ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุ

นายภูมิธรรม ระบุเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการประชุม หารือ และศึกษาผลกระทบด้านต่าง ๆ เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมในการจัดการความขัดแย้งครั้งนี้ จนสามารถดำเนินการให้ยุติลงตามวิถีทางสันติภาพและยุติธรรม เพื่อผลประโยชน์และความสงบสันติของประชาชนทุกฝ่าย

จากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ในเดือนเมษายน 2568 การค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามีมูลค่ารวมประมาณ 15,800 ล้านบาท โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชามูลค่า 12,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.94% และนำเข้า 3,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.28% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ากว่า 8,490 ล้านบาท

โดยเฉพาะในส่วนของการค้าชายแดน ซึ่งเป็นช่องทางหลักระหว่างสองประเทศ มีมูลค่ารวม 15,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แยกเป็นการส่งออก 12,097 ล้านบาท และนำเข้า 3,207 ล้านบาท โดยไทยได้ดุลการค้าชายแดนกว่า 8,888 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมในไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม – มีนาคม 2568) มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ที่ 18,219 ล้านบาท ขยายตัว 16.7% โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์อาหาร

Back to top button