
ญี่ปุ่นพลิกโฉม “ซานาเอะ ทาคาอิจิ” ขึ้นแท่นหัวหน้า LDP ว่าที่ “นายกหญิง” คนแรก
“ซานาเอะ ทาคาอิจิ” คว้าชัยเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP เปิดทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น จับตาจุดเปลี่ยนการเมืองแดนอาทิตย์อุทัย ท่ามกลางแรงกดดันเศรษฐกิจ “ค่าจ้างซบเซา–ค่าครองชีพสูง”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงโตเกียวว่า นางซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สายอนุรักษนิยม วัย 64 ปี ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party) หรือ พรรค LDP ในวันเสาร์ (4 ต.ค.68) หลังการลงคะแนน 2 รอบจากสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกพรรคระดับรากหญ้า
ชัยชนะครั้งนี้เปิดทางให้ “ทาคาอิจิ” ก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหมุดหมายทางการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศที่ผู้หญิงมีบทบาทในสภานิติบัญญัติน้อยมาโดยตลอด
สำนักข่าว นิวยอร์กไทม์ (The New York Times) รายงานว่า การชนะของทาคาอิจิอาจสะท้อน “การขยับขวา” ทางการเมืองของญี่ปุ่น หรือการเอนนโยบายไปทาง “อนุรักษนิยมมากขึ้น” ทั้งในด้านความมั่นคงและสังคม ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนต่อค่าจ้างที่ซบเซา ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น และการหลั่งไหลของแรงงานต่างชาติและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านสำนักข่าว รอยเตอร์ส (Reuters) ระบุว่า ทาคาอิจิได้กล่าวปราศรัยหลังชนะเลือกตั้งว่า จะ “ทำงาน ทำงาน และทำงาน” พร้อมกระตุ้นให้เพื่อนร่วมพรรค “ทำงานให้หนักเหมือนม้าลากเกวียน” และย้ำว่า จะมุ่งเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ มากกว่ารู้สึกยินดีกับชัยชนะ
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐสภาญี่ปุ่นจะเสนอชื่อเธออย่างเป็นทางการให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในช่วงกลางเดือนตุลาคม เพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจาก นายชิเกรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) ซึ่งประกาศลาออกเมื่อเดือนกันยายน หลังดำรงตำแหน่งราว 1 ปี
สำนักข่าว บลูมเบิร์ก (Bloomberg) และ นิเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดการเงินญี่ปุ่นตอบรับผลการเลือกตั้งด้วยท่าทีระมัดระวัง โดยนักลงทุนจับตาทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของทาคาอิจิ ซึ่งประกาศสนับสนุน “เงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์” และการประสานนโยบายอย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพื่อผลักดันค่าจ้างและการบริโภคให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน
ที่มาภาพ : X / @takaichi_sanae