
“อนุทิน” โชว์เกมการทูต! ยกหูคุย “อี แช มย็อง” ลั่นพร้อมช่วยเหยื่อสแกมเมอร์เต็มที่
“อนุทิน” สายตรง “อี แช มย็อง” แสดงความเสียใจนักศึกษาเกาหลีใต้เสียชีวิตในกัมพูชา ยันไทยพร้อมร่วมมือทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ–ความมั่นคง ขณะที่บอร์ดปราบสแกมเมอร์นัดประชุมครั้งแรก 20 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ต.ค.68) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายอี แช มย็อง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ระหว่างการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ เพื่อหารือแนวทางกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณประธานาธิบดีเกาหลีใต้ สำหรับสารแสดงความยินดี พร้อมตอบรับเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในเดือนตุลาคมนี้ โดยย้ำว่า ไทยและเกาหลีใต้เป็นมิตรแท้ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนานกว่า 70 ปี นับตั้งแต่ไทยเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี
นายอนุทิน กล่าวถึงความสำคัญของการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันจากปัจจุบัน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมขอให้เกาหลีใต้เร่งรัดสรุปการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–เกาหลีใต้ เพื่อเปิดทางขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน และเทคโนโลยีระหว่างกัน
ทั้งนี้ ไทยยังต้องการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่เกาหลีใต้มีศักยภาพ เช่น พลังงานสะอาด ดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับแนวโน้มการลงทุนของภาคเอกชนเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการของบริษัทฮุนได COSMAX และ LH ซึ่งเตรียมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกาหลีแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลนักลงทุนเกาหลีใต้อย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของนักศึกษาเกาหลีใต้ในกัมพูชา พร้อมยืนยันว่า ไทยอยู่ระหว่างการเจรจากับกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดน และผลักดันให้ฝ่ายกัมพูชาปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญของการเจรจา โดยได้ขอความร่วมมือจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ช่วยผลักดันในระดับนานาชาติ และย้ำว่า หากไทยสามารถช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ได้ก็พร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่
ด้านประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่เคยให้ความช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ ซึ่งถูกหลอกลวงในเมียนมา และยืนยันจะร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
นายสิริพงศ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งและทำหน้าที่ประธานเอง ได้ดำเนินมาตรการปิดด่านชายแดนบางแห่งอย่างไม่มีกำหนด เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไข 4 ข้อของไทย โดยเฉพาะการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่เห็นผลชัดเจน และถูกหยิบยกในทุกเวทีหารือระดับทวิภาคี
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า หลังจากตั้งคณะกรรมการดังกล่าว รัฐบาลจะเร่งขับเคลื่อนมาตรการปราบปรามในทุกมิติ ทั้งด้านกฎหมาย เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างประเทศ พร้อมระบุว่าจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 20 ตุลาคม 2568
“นายกรัฐมนตรีไม่ได้เพียงสั่งการ แต่ลงมือทำจริงและติดตามเองทุกระยะ นี่คือเรื่องของความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และศักดิ์ศรีของคนไทยทุกคน” นายสิริพงศ์ กล่าวย้ำ