“ดาวโจนส์” ปิดลบ 816 จุด กังวลหนี้สหรัฐ-ยีลด์พุ่ง ฉุดหุ้นเทคดิ่งยกแผง

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบแรงในวันพุธ ดาวโจนส์รูด 816 จุด กังวลหนี้สหรัฐ ขณะที่ บอนด์ยีลด์พุ่ง ฉุดหุ้นเทคดิ่งยกแผง


ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบแรงในวันพุธ (21 พ.ค.68) โดยนักลงทุนเทขายหุ้นท่ามกลางแรงกดดัน จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ที่เร่งตัวขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงต่อเนื่องของสหรัฐ ขณะพรรครีพับลิกัน เร่งเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 41,860.44 จุด ลดลง 816.80 จุด หรือ -1.91%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 5,844.61 จุด ลดลง 95.85 จุด หรือ -1.61%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 18,64 จุด ลดลง 270.07 จุด หรือ -1.41%

แรงขายถูกกระตุ้นหลังการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปีมูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงบ่ายของวันพุธ ได้รับความสนใจต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้ยีลด์พันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งแตะ 4.595% และพันธบัตรอายุ 30 ปีขยับขึ้นแตะ 5.089% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 12 เดือน

ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลวอชิงตันทวีความรุนแรงขึ้น หลังมีการประเมินว่า ร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่อาจทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐ พุ่งทะลุ 40 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในทศวรรษหน้า

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวลง นำโดย Nvidia (NVDA) ปิดที่ 131.80 ดอลลาร์ ลดลง 1.92% หลังซีอีโอ Jensen Huang แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีน ซึ่งกระทบต่อโอกาสทางการตลาดของบริษัท Apple (AAPL) ปิดที่ 202.06 ดอลลาร์ ลดลง 2.32% นักลงทุนประเมินการแข่งขันด้านอุปกรณ์ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ภายหลังข่าวการเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพของ Jony Ive โดย OpenAI ขณะที่ Amazon (AMZN) ปิดที่ 201.12 ดอลลาร์ ลดลง 1.45% มีรายงานว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่กดดันดัชนีดาวโจนส์ในช่วงต้นตลาด และ Alphabet (GOOGL) ปิดที่ 168.56 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.79% แม้จะสวนทางตลาดโดยรวม แต่ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวนวัตกรรม AI ใหม่

นักวิเคราะห์ชี้ว่า แรงเทขายในหุ้นเทคโนโลยีสะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่เริ่มระมัดระวังต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Risk Assets) โดยเฉพาะในภาวะที่ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ทั้งนี้ บรรยากาศในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคลายตัวของความคาดหวังเชิงบวกที่เกิดจากข้อตกลงสงบศึกทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วยหนุนตลาดในระยะสั้น

Back to top button