“ดาวโจนส์” ปิดลบ 11 จุด กังวลดัชนี PPI สูงกว่าคาด หนุนบอนด์ยีลด์พุ่งแตะ 4.28%

“ดาวโจนส์” ปิดลบ 11 จุด กังวลดัชนี PPI เดือนก.ค. ออกมาสูงกว่าคาด กดดันความเชื่อว่าเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยเดือนก.ย. ดันบอนด์ยีลด์ 10 ปี แตะ 4.28%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.68) โดยดัชนีส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าการคาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนลดความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,911.26 จุด ลดลง 11.01 จุด หรือ 0.02%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,468.54 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ +0.03%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,710.67 จุด ลดลง 2.47 จุด หรือ -0.01%

ทั้งนี้ แม้ดัชนี S&P 500 จะปรับขึ้นเล็กน้อย (น้อยกว่า 0.1%) และทำสถิติสูงสุดใหม่ ดัชนีดาวโจนส์และ Nasdaq Composite ก็ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดในวันก่อนหน้า

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (Bureau of Labor Statistics: BLS) เปิดเผยว่า ดัชนี PPI สำหรับยอดขายสุดท้าย (PPI final demand) เดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 และเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าการคาดการณ์ที่ 2.5% และเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568

ดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน รวมถึงบริการค้าขาย เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 2.8% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565

ข้อมูล PPI ที่ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้นักลงทุนต้องประเมินใหม่ต่อท่าทีของเฟดในการประชุมเดือนกันยายน แม้ว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน แต่ก็อาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ตัวเลข PPI ที่แข็งแกร่งยังหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 4.28% จากราว 4.20% ก่อนการเปิดเผยข้อมูล และจาก 4.24% ในช่วงค่ำของวันที่ 13 สิงหาคม 2568

Back to top button