
หุ้นยุโรปปิดบวก รับ “ทรัมป์” แถลงหนุนความมั่นคง “ยูเครน”
ดัชนีหุ้นหลักของยุโรปดีดตัวขึ้นพร้อมกัน ขานรับความหวังต่อการเจรจาสันติภาพ แม้หุ้นกลาโหมร่วงแรงกดดันตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มหรูหราและยานยนต์ หนุนดัชนี STOXX 600 ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.68) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 หลังนักลงทุนให้น้ำหนักต่อโอกาสการยุติสงครามในยูเครน ภายหลังการหารือที่กรุงวอชิงตันระหว่างผู้นำสหรัฐฯ ยูเครน และยุโรป
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 557.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.80 จุด หรือ +0.69% ขณะที่ดัชนีสำคัญของยุโรปขยับขึ้นถ้วนหน้า โดย ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,979.08 จุด เพิ่มขึ้น 95.03 จุด หรือ +1.21% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,423.07 จุด เพิ่มขึ้น 108.30 จุด หรือ +0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,189.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.48 จุด หรือ +0.34%
แรงหนุนสำคัญมาจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้คำมั่นจะค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน และเปิดเผยถึงการเตรียมจัดประชุมสุดยอดสามฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน แม้รายละเอียดการเจรจายังไม่ชัดเจน โดยทรัมป์ ระบุว่า หวังให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินยุติสงคราม แต่ก็ยอมรับว่ามีโอกาสที่รัสเซียจะไม่ต้องการข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มกลาโหมยุโรปกลับร่วงแรง นำโดยหุ้น Leonardo ของอิตาลีที่ดิ่งลงกว่า 10% ขณะที่ Hensoldt และ Renk Group ร่วงลง 9.5% และ 8.3% ตามลำดับ ส่วน Rheinmetall ลดลงเกือบ 5% กดดันดัชนี STOXX 600 มากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและยานยนต์ช่วยหนุนตลาด โดยกลุ่มยานยนต์พุ่งขึ้น 2.4% กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มบวก 1.6% หุ้นหรูปรับตัวแรงนำโดย Moncler บวก 4.9% และ Burberry พุ่งขึ้น 5.1% ขณะที่ JD Sports ของอังกฤษทะยาน 6.9% หลังดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 100 เพนซ์ จากเดิม 85 เพนซ์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่แจ็กสันโฮลในสัปดาห์นี้ โดยให้ความสนใจกับสัญญาณนโยบายการเงินจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แม้ตลาดยังคงให้น้ำหนักสูงต่อการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน