“ดาวโจนส์” ปิดลบ 92 จุด กังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว–จับตาท่าทีเฟด

ดาวโจนส์ปิดลบ 92 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นเทคฯ กังวลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอ หลังข้อมูลแรงงานส่งสัญญาณอ่อนแรง ขณะจับตาท่าทีเฟดอาจเร่งลดดอกเบี้ยหนุนเศรษฐกิจ ทองคำพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์ครั้งแรก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (7 ต.ค.68) สามดัชนีหลักปิดลบ หลังนักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยี ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่ข้อมูลแรงงานล่าสุดส่งสัญญาณอ่อนแรง และเพิ่มแรงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในระยะถัดไป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,602.98 จุด ลดลง 91.99 จุด หรือ 0.20% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,714.59 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ 0.38% และ ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,788.36 จุด ลดลง 153.30 จุด หรือ 0.67%

แรงขายกระจุกตัวในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Tesla ที่ร่วงลงกว่า 4% หลังเปิดตัวรถยนต์รุ่นราคาย่อมเยา ซึ่งอาจกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัท รวมถึงหุ้นซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ เช่น Oracle ที่เผชิญแรงเทขายต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องรายได้ในธุรกิจคลาวด์และ AI ขณะที่นักลงทุนบางส่วนโยกเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568

ปัจจัยที่กดดันตลาดมาจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่สะท้อนสัญญาณชะลอตัวชัดเจนมากขึ้น หลังรายงานจากบริษัทด้านการลงทุน Carlyle ประเมินว่า ในเดือนกันยายน การจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 17,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดอย่างมาก ขณะที่ดัชนีตำแหน่งงานว่าง (JOLTS) ล่าสุดยังอยู่ในระดับต่ำ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังอ่อนแรงต่อเนื่อง และอาจกดดันให้เฟดต้องเร่งพิจารณามาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วขึ้น

ขณะเดียวกัน สถานการณ์การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ ชัตดาวน์สหรัฐฯ (Government Shutdown) ที่ยืดเยื้อ ทำให้หน่วยงานเศรษฐกิจไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลทางการได้ตามปกติ ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในช่วงนี้

Back to top button