กูรูชู 5 หุ้นเด่น! ยีลด์สูง-รับผลดีบาทอ่อนSET บ่ายมีลุ้นทะลุแนวต้าน 1,240 จุด

SET เช้านี้ปรับตัวขึ้นหลังตลาดหุ้นจีนยกเลิกการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ แต่การปรับตัวขึ้นยังไม่แข็งแรง เพราะอาจยังไม่ลบภาพเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ขณะที่ตลาดภูมิแกว่งตัวทั้งบวก-ลบ รวมถึงราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้าดีดตัวขึ้น ทำให้อาจไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง บ่ายนี้คงแกว่งในกรอบแนวรับ 1,220 แนวต้าน 1,235-1,240 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 8 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากจีนยกเลิกการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ แต่การปรับขึ้นอาจเป็นเพียงช่วงสั้น รวมถึงราคาน้ำมันเช้านี้ในตลาดล่วงหน้าดีดตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่ตลาดภูมิแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,235-1,240 จุด พร้อมแนะนำสำหรับพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นให้น้ำหนักแค่ 30% ขณะที่ แนะนำหุ้น INTUCH-ADVANC-KCE-SVI และ SMT

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดีดตัวขึ้นได้ หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนได้เริ่มดีดตัวขึ้น จากที่ได้ยกเลิกการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ไป แต่การปรับตัวขึ้นยังไม่แข็งแรง เพราะอาจยังไม่สามารถลบภาพเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวได้ ดังนั้นการดีดตัวขึ้นจึงอาจเป็นแค่ชั่วคราว

ขณะที่ ตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ แต่จะไปทางบวกมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะติดลบกันทั่วหน้า อย่างไรก็ตาม ให้รอดูปัจจัยที่จะเข้ามาเพิ่ม โดยเช้านี้ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้าได้ดีดตัวขึ้นทำให้อาจไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,235-1,240 จุด พร้อมแนะนำสำหรับพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นให้น้ำหนักแค่ 30%

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 8 ม.ค.) ว่า SET ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นภูมิภาคตั้งแต่เปิดตลาด หลังค่าเงินหยวนชะลอการอ่อนค่าวันนี้ โดยกลุ่มหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดยังเป็น 1) กลุ่มหุ้นทื่ได้รับผลดีจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE-SVI) รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงแรงก่อนหน้า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 8% ต่อปี อย่างกลุ่มสื่อสาร (INTUCH-ADVANC)

ขณะที่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐคืนนี้ อาจเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกต่อในสัปดาห์หน้า ในกรณีที่การจ้างงานไม่ได้เอื้อให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยเร็วนัก ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินหยวนชะลอการอ่อนค่าลง

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของค่าเงินบาท เป็นปัจจัยหนุนอัตรากำไรเนื่องจากการรายได้ส่วนใหญ่ของ KCE เป็นรายได้จากการส่งออก ขณะที่คาดการอุตสาหกรรม PCB ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตสูง 7.4% ต่อปี หนุนกำไร KCE เติบโตแกร่ง 30% ในปี 2558 ขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มีสัญญาณ “บวก” เช่นเดียวกัน ไม่ว่าเป็น SVI (แนวต้าน 5.65/6.00 บาท), SMT (แนวต้าน 10.10/10.70 บาท)

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,372.27 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,139.52 ล้านบาท ปิดที่ 5.15 บาท ลดลง 0.05 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 992.21 ล้านบาท ปิดที่ 212.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 593.74 ล้านบาท ปิดที่ 2.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 551.83 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button